ผู้จัดการรายวัน 360 - เหยื่อถูกโกงโควต้าสลากฯ ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดี เชื่อขบวนการใหญ่มีอิทธิพลหนุนหลัง ฟันธงไม่ได้มีผู้ต้องหาเพียงคนเดียว ยื่นขอความเป็นธรรม กมธ.กฎหมาย ด้าน ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ รับลูกเตรียมชงเข้าที่ประชุม พร้อมจ่อสอบ กรณีเว็บไชต์ขายสลากออนไลน์ หวั่นประชาชนโดนหลอกได้รับความเสียหาย
จากกรณีที่ น.ส.จิตรา โยธาภิรมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตราด ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ด้วยการหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคาถูกกว่าความเป็นจริง จนทำให้มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมากสร้างความเสียหายมากกว่า 800 ล้านบาท ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 2 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (11 พ.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกโกงสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนประมาณ 20 คน จากผู้เสียหายทั้งหมดรวมกว่า 500 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานผู้บังคับการกองปราบฯ เพื่อร้องขอให้รับโอนสำนวนคดีมาอยู่ในความดูแล เพราะเชื่อว่านอกจาก น.ส.จิตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาหนึ่งในขบวนการโกงลอตเตอรี่ดังกล่าว ที่เข้ามอบตัวกับทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นั้น ยังมีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีกหลายรายที่ยังไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี รวมถึงให้ช่วยติดตามยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิดมาคืนให้กับผู้เสียหาย และดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน
นายรณณรงค์ กล่าวว่า เชื่อว่าขบวนการดังกล่าวไม่ได้มี น.ส.จิตรา เพียงแค่คนเดียว เพราะผู้ต้องหารายนี้มีอายุเพียงแค่ 30 ปี ไม่น่าจะสามารถฉ้อโกงผู้คนที่มีมูลค่ารวมนับหมื่นล้านได้ อาจจะมีข้าราชการระดับสูงช่วยเหลือ หรือมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และเกรงว่าคดีดังกล่าวอาจจะมีการชดใช้เยียวให้กับผู้เสียหายไม่ทั่วถึง เพราะตั้งแต่ที่ น.ส.จิตราผู้ต้องหาเข้ามอบตัว กลับไม่มีการกล่าวถึงขั้นตอนการยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดมาเยียวยาผู้เสียหายแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในคดี จึงอยากให้ทางกองปราบรับโอนสำนวนคดีมาอยู่ในความดูแล ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำชับเร่งรัดให้ทำคดี
จากการสอบถามผู้เสียหายรายหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับนายอ๊อฟ (นามสมมุติ) หนึ่งในแม่ทีมเครือข่ายดังกล่าว ก่อนชักชวนให้สั่งซื้อหรือสั่งจองโควตาสลากฯผ่านตนเอง โดยอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่ที่สามารถจัดหาโควตาสลากฯ ได้เป็นจำนวนมาก และราคาถูก จึงหลงเชื่อยอมโอนเงินสั่งจองหลายครั้ง ซึ่งช่วงแรกก็ไม่ติดปัญหาใดๆ จึงเริ่มสั่งจองโควต้าสลากฯล่วงหน้าเพิ่มขึ้น กระทั่ง 2-3 งวดหลัง เริ่มมีการจ่ายสลากล่าช้า เมื่อทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงก่อนขาดหายไปในที่สุด ซึ่งในส่วนของตนสูญเงินค่าจองสลากฯล่วงหน้าไปกว่า 10 ล้านบาท
เบื้องต้นทางสำนักงานผู้บังคับการกองปราบได้ประสานให้ทางพนักงานสอบสวนแต่ละกองกำกับการดำเนินการแยกสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละพื้นที่เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐาน ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ยื่นขอความเป็นธรรม กมธ.กฎหมาย
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เร่งรัดดำเนินคดีและตรวจสอบการกระทำความผิดของกระบวนการหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้เสียหายดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวกับผู้เสียหายก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ผู้เสียหายได้บอกว่านายบอยได้มีการอ้างชื่อของบุคคลในรัฐบาล คือ “ร.อ.ธรรมนัส” ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ กลุ่มของพวกตนจึงหลงเชื่อ จากนั้นนายสิระพร้อมด้วยผู้เสียหายได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ปอศ.) เพื่อแจ้งความต่อไป
ทั้งนี้ นายสิระ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯเพื่อพิจารณาและเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล ขณะนี้ทางกรรมาธิการฯได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ที่มีการจำหน่ายสลากออนไลน์ว่าน่าจะเข้าข่ายหลอกหลวงประชาชน เป็นไปได้หรือไม่ที่มีการขายสลากทางออนไลน์โดยไม่มีสลากตัวจริง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นเจ้ามือที่รับแทงหวยและรับเล่นการพนันโดยให้ประชาชนไปซื้อล็อตเตอรี่ทางออนไลน์ ดังนั้นจะต้องมาพิสูจน์ว่ามีล็อตเตอรี่จริงหรือไม่ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าหากเว็ปไซต์ดังกล่าวได้รับล็อตเตอรี่จำนวนหลายล้านชุดนั้นมีผู้เกี่ยวข้องได้รับผลประโยชน์หรือไม่ และหากมีล็อตเตอรี่จริงต้องดูว่ามีเจ้าหน้าที่ของกองสลากมีส่วนเกี่ยวข้องในการปล่อยโควต้าสลากให้อยู่ในมือของเว็บไซต์ออนไลน์หรือไม่
จากกรณีที่ น.ส.จิตรา โยธาภิรมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตราด ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ด้วยการหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคาถูกกว่าความเป็นจริง จนทำให้มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมากสร้างความเสียหายมากกว่า 800 ล้านบาท ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 2 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (11 พ.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกโกงสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนประมาณ 20 คน จากผู้เสียหายทั้งหมดรวมกว่า 500 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานผู้บังคับการกองปราบฯ เพื่อร้องขอให้รับโอนสำนวนคดีมาอยู่ในความดูแล เพราะเชื่อว่านอกจาก น.ส.จิตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาหนึ่งในขบวนการโกงลอตเตอรี่ดังกล่าว ที่เข้ามอบตัวกับทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นั้น ยังมีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีกหลายรายที่ยังไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี รวมถึงให้ช่วยติดตามยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิดมาคืนให้กับผู้เสียหาย และดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน
นายรณณรงค์ กล่าวว่า เชื่อว่าขบวนการดังกล่าวไม่ได้มี น.ส.จิตรา เพียงแค่คนเดียว เพราะผู้ต้องหารายนี้มีอายุเพียงแค่ 30 ปี ไม่น่าจะสามารถฉ้อโกงผู้คนที่มีมูลค่ารวมนับหมื่นล้านได้ อาจจะมีข้าราชการระดับสูงช่วยเหลือ หรือมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และเกรงว่าคดีดังกล่าวอาจจะมีการชดใช้เยียวให้กับผู้เสียหายไม่ทั่วถึง เพราะตั้งแต่ที่ น.ส.จิตราผู้ต้องหาเข้ามอบตัว กลับไม่มีการกล่าวถึงขั้นตอนการยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดมาเยียวยาผู้เสียหายแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในคดี จึงอยากให้ทางกองปราบรับโอนสำนวนคดีมาอยู่ในความดูแล ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำชับเร่งรัดให้ทำคดี
จากการสอบถามผู้เสียหายรายหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับนายอ๊อฟ (นามสมมุติ) หนึ่งในแม่ทีมเครือข่ายดังกล่าว ก่อนชักชวนให้สั่งซื้อหรือสั่งจองโควตาสลากฯผ่านตนเอง โดยอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่ที่สามารถจัดหาโควตาสลากฯ ได้เป็นจำนวนมาก และราคาถูก จึงหลงเชื่อยอมโอนเงินสั่งจองหลายครั้ง ซึ่งช่วงแรกก็ไม่ติดปัญหาใดๆ จึงเริ่มสั่งจองโควต้าสลากฯล่วงหน้าเพิ่มขึ้น กระทั่ง 2-3 งวดหลัง เริ่มมีการจ่ายสลากล่าช้า เมื่อทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงก่อนขาดหายไปในที่สุด ซึ่งในส่วนของตนสูญเงินค่าจองสลากฯล่วงหน้าไปกว่า 10 ล้านบาท
เบื้องต้นทางสำนักงานผู้บังคับการกองปราบได้ประสานให้ทางพนักงานสอบสวนแต่ละกองกำกับการดำเนินการแยกสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละพื้นที่เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐาน ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ยื่นขอความเป็นธรรม กมธ.กฎหมาย
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เร่งรัดดำเนินคดีและตรวจสอบการกระทำความผิดของกระบวนการหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้เสียหายดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวกับผู้เสียหายก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ผู้เสียหายได้บอกว่านายบอยได้มีการอ้างชื่อของบุคคลในรัฐบาล คือ “ร.อ.ธรรมนัส” ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ กลุ่มของพวกตนจึงหลงเชื่อ จากนั้นนายสิระพร้อมด้วยผู้เสียหายได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ปอศ.) เพื่อแจ้งความต่อไป
ทั้งนี้ นายสิระ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯเพื่อพิจารณาและเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล ขณะนี้ทางกรรมาธิการฯได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ที่มีการจำหน่ายสลากออนไลน์ว่าน่าจะเข้าข่ายหลอกหลวงประชาชน เป็นไปได้หรือไม่ที่มีการขายสลากทางออนไลน์โดยไม่มีสลากตัวจริง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นเจ้ามือที่รับแทงหวยและรับเล่นการพนันโดยให้ประชาชนไปซื้อล็อตเตอรี่ทางออนไลน์ ดังนั้นจะต้องมาพิสูจน์ว่ามีล็อตเตอรี่จริงหรือไม่ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าหากเว็ปไซต์ดังกล่าวได้รับล็อตเตอรี่จำนวนหลายล้านชุดนั้นมีผู้เกี่ยวข้องได้รับผลประโยชน์หรือไม่ และหากมีล็อตเตอรี่จริงต้องดูว่ามีเจ้าหน้าที่ของกองสลากมีส่วนเกี่ยวข้องในการปล่อยโควต้าสลากให้อยู่ในมือของเว็บไซต์ออนไลน์หรือไม่