MGR Online - ฝากขัง “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ - รอง ผบช.ก.เผย พฤติกรรมยังไม่เข้าข่ายความผิด ม.112
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปอศ. หนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีตุ๋นพันล้าน ที่มี นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน เป็นหัวหน้าขบวนการ ว่า อยู่ระหว่างประสานศาลอาญาทำเรื่องฝากขังนายประสิทธิ์ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ค้านการประกันตัว เนื่องจากมูลค่าความเสียหายค่อนข้างสูง มีผู้เสียหายจำนวนมาก และเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลในการตัดสิน ซึ่งหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะปล่อยตัวที่กองปราบปราม แต่หากคัดค้าน ก็จะส่งตัวไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ นายประสิทธิ์ ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา หลังเข้ามอบตัวกับตำรวจนั้น เจ้าตัวยังคงยืนกรานปฏิเสธ ส่วนเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุน การชักชวนผู้เสียหาย หรือการโอนย้ายทรัพย์สินต่างๆ นั้น เจ้าตัวไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ซ้ำยังยืนยันว่า ธุรกิจต่างๆ ของบริษัทในเครือยังสามารถดำเนินการต่อไปได้
ด้าน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานชุดคลี่คลายคดี กล่าวถึงกรณีเพจโครงการคืนคุณแผ่นดิน โพสต์ภาพนายประสิทธิ์ กำลังหารือร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำกัด เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีนายตำรวจระดับสูงให้การต้อนรับ ว่า จากการตรวจสอบบริษัท สหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ในเครือของ นายประสิทธิ์ พบว่า มีการยกเลิกและปิดตัวบริษัทลงไปก่อน เนื่องจากดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งยังไม่มีการดำเนินงานใดๆ ร่วมกับสหกรณ์ตำรวจ แต่จากภาพที่ปรากฏ คงเป็นเพียงการหารือกันเท่านั้น
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่า นายประสิทธิ์ พาดพิงถึงเบื้องสูงจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 หรือไม่นั้น จากการตรวจสอบพบว่า การกระทำของนายประสิทธิ์ ที่ทำทีเป็นจิตอาสาทำความดี อันเป็นลักษณะการฉ้อโกงเพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเองนั้น ยังไม่เข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย ไม่ได้มีการระดมทุนโดยอ้างว่าจะนำเข้าสถาบัน แต่ขอเรียนประชาชนว่า ขอให้แยกแยะเรื่องการทำความดี กับการกระทำผิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน ส่วนเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายว่ามีการยักย้ายถ่ายเทไปที่ใด ถึงญาติหรือคนใกล้ชิดบ้างหรือไม่ ยอมรับว่า มีความยากพอสมควรแต่ตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่แน่นอน
ต่อมาเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดีดังกล่าว ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ได้ภายในซอยงามวงศ์วาน 51 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ก่อนนำตัวมาทำการสอบสวนยังกองบังคับการปราบปราม
ทั้งนี้ จากแนวทางสืบสวนทราบว่า นายกิตติศักดิ์ เป็นกรรมการบริษัท เหนือโลก จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือบริษัท เอ็มกรุ๊ป มีการเปิดบัญชีรับโอนเงินจากการซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม ที่เป็น 1 ใน 5 รูปแบบการชักชวนลงทุนของเครือข่ายดังกล่าว รวมถึงยังเป็นผู้ลงนามเซ็นเอกสารทางธุรกรรมต่างๆ ของบริษัทในช่วงที่มีการหลอกลวงเหยื่ออีกด้วย