MGR Online - กองปราบฯ ตามรวบอีก 1 สมาชิกแก๊ง "ดาวเรือง" ฟอกเงินค้ายาเสพติด 3 พันล้านบาท หลังหนีกบดานในจังหวัดพัทลุง
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายนัธฐากรณ์ เผ่าชู อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 841/2563 ลงวันที่ 11 มิ.ย. 63 ข้อกล่าวหา “ร่วมกันฟอกเงิน”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ทำการจับกุม นายธีระพร หรือหมี ชูเมือง อายุ 40 ปี พร้อมพวกอีก 10 คน หลังพบว่ามีพฤติกรรมเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ มีเครือข่ายครอบคลุมในพื้นที่ภาคใต้และกรุงเทพฯ รวมไปถึงเครือข่ายต่างๆ ตามเรือนจำอีกหลายแห่ง โดยแก๊งของนายหมีจะมีการลักลอบนำยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายให้แก่ลูกค้ารายย่อยในพื้นที่ จ.ตรัง และจังหวัดใกล้เคียงในภาคใต้ โดยมี น.ส.ดาวเรือง สมแสง ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเป็นผู้ประสานงานคอยทำหน้าที่รับโอนเงินค่ายาเสพติดจากเครือข่ายต่างๆ รวมถึงมีการถ่ายโอนเงินจากการค้ายาเสพติดไปยังบัญชีอื่นๆ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ ปปง.ให้ช่วยตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบพบว่าเส้นทางการเงินของ น.ส.ดาวเรืองมีการโอนเงินค่ายาเสพติดเข้า-ออกไปยังบัญชีอื่นๆ มากถึง 113 บัญชี และยังมีการโอนย้ายเงินไปยังบัญชีอื่นๆ ต่อไปอีก โดยพบเงินหมุนเวียนทั้งระบบมีจำนวนสูงถึง 3 พันล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป.จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป.ได้ทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายนัธฐากรณ์ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งมีหน้าที่ถือบัญชีรับโอนเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดส่วนหนึ่งของเครือข่าย และโอนต่อไปยังบัญชีปลายทางต่างๆ ตามคำสั่งของ น.ส.ดาวเรือง ได้หลบหนีมากบดานอยู่ใน จ.พัทลุง จึงได้สืบสวนจนสามารถจับกุมตัวนายนัธฐากรณ์ได้ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง
สอบสวนนายนัธฐากรณ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมพบว่าเมื่อปี 63 นายนัธฐากรณ์มีประวัติเคยต้องโทษคดีค้ายาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป