MGR Online - ศาลอาญาพิจารณาความผิดแกนนำและผู้ชุมนุม ตร.เร่งพิสูจน์ทราบรวมรวมหลักฐานออกหมายเรียก ชี้ปราศรัยพาดพิงจะดำเนินคดีภายหลัง จัดกำลังเฝ้าระวังสถานทูต 2 แห่งเย็นนี้ หากฝ่าฝืนจนแพร่เชื้อเตรียมเอาผิดทางคดีและความเสียหาย
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.(จต.) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีการชุมนุมบริเวณศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อกดดันให้ปล่อยตัวแกนนำที่ถูกคุมขังมาตรา 112 ว่า ขณะนี้ศาลอาญาอยู่ระหว่างพิจารณาพฤติการณ์แกนนำและผู้ชุมนุม มีลักษณะเข้าข่ายความผิดเรื่องการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ จากนั้นจะประสานตำรวจ สน.พหลโยธิน ช่วยพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ก่อนดำเนินการออกหมายเรียกมาดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่จะมีบุคคลใด หรือจำนวนเท่าใดบ้างยังไม่สามารถระบุได้
ในส่วนของตำรวจจากการตรวจสอบพฤติการณ์ในเบื้องต้น พบว่า อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (มาตรการควบคุมโรค) และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ รวมถึงประกาศของกรุงเทพมหานคร เรื่องการห้ามชุมนุมรวมตัวจัดกิจกรรมตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป หรือเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และความผิดเรื่องการไม่สวมหน้ากากอนามัยนอกเคหสถาน ทั้งนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดภายในและนอกศาล ถนนรัชดาภิเษก และการบันทึกภาพและเสียงของตำรวจ หากพบว่าการปราศรัยพาดพิงไปถึงสถาบัน หรือบุคคลใดก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมในภายหลัง
สำหรับการชุมนุมในช่วงเย็นวันนี้ที่หน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา สถานทูตเยอรมนี และศาลอาญา เบื้องต้นได้จัดกำลังตำรวจสายตรวจ ตำรวจสันติบาล และตำรวจนอกเครื่องแบบ คอยบันทึกภาพและเสียงเหตุการณ์เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดี ขณะนี้สถานทูตทั้งสองแห่งยังไม่ร้องขอกำลังตำรวจเพิ่มเติม จากการข่าวฝ่ายความมั่นคงพบว่า การชุมนุมดังกล่าวไม่น่าเป็นห่วง ขอเตือนว่า ยังมีผู้ติดเชื้อโควิค-19 เป็นจำนวนมาก จึงขอให้งดการชุมนุมออกไปก่อน หากยังฝ่าฝืน หรือมีการแพร่เชื้อจากการชุมนุมก็จำเป็นต้องดำเนินการทั้งทางคดี และความเสียหายในภายหลัง