MGR Online - บช.น.ชี้แจงคืบหน้าสถานบริการแพร่โควิด-19 สอบแล้ว 2 ปาก ออกหมายเรียกเจ้าของ 2 ราย เดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานความผิดอื่น
วันนี้ (20 เม.ย.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีร้านคริสตัลคลับ และร้านเอมเมอรัลด์ ดังนี้
1. พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอเอกสารประกอบสำนวนการสอบสวน
2. การรวบรวมพยานวัตถุและพยานเอกสารจากสถานที่เกิดเหตุ ได้แก่ ออกหมายเรียกพยานวัตถุ พยานเอกสาร จากหน่วนงานที่เกี่ยวข้อง บริษัทต่างๆ, เมื่อวันที่ 16 เม.ย. เวลาประมาณ 14.00 น. การเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อเก็บพยานหลักฐาน โดยขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานเขตวัฒนา สำนักอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) และผู้ดูแลร้านเข้าร่วมตรวจผลการปฏิบัติ ได้ตรวจยึดเครื่องบันทึกภาพส่งตรวจ พฐก.ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
3. การรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ได้แก่ รวบรวมภาพนิ่ง คลิปภาพเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องที่ปรากฏในโซเชียลและสื่อนำเสนอ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในคดีนี้หรือไม่, ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งโดยรอบอาคารที่เกิดเหตุทั้งสองแห่งและสถานที่ใกล้เคียง
4. สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ปาก คือ เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สำหรับพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการคัดกรองกำหนดวันที่เหมาะสม ปลอดภัย ในการเรียกมาสอบสวนต่อไป
5. จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับนิติบุคคล พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายเกียรติพงษ์ คำต่าย ในฐานะกรรมการผู้จัดการนิติบุคคลร้านคริสตัลคลับ และ นายเดชา พิลาลี ในฐานะกรรมการผู้จัดการนิติบุคคลร้านเอมเมอรัลด์ ในข้อหา "ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สถานบริการ และฝ่าฝืนตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ" เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ ในวันที่ 3 พ.ค. เวลา 10.00 น.
ทั้งนี้ เหตุที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกในข้อหา พ.ร.บ.สถานบริการ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพียง 2 ข้อหา เนื่องจาก บช.น.รับผิดชอบการออกใบอนุญาตตาม พ.ร.บ.สถานบริการ จึงมีข้อมูลในเรื่องสถานบริการที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว ในส่วนของความผิดตามกฎหมายอื่นๆ จะต้องมีการรวบรวมพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้สถานที่ การประกอบกิจการต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกใบอนุญาตนั้น มีจำนวนหลายหน่วยงาน หากพนักงานสอบสวน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว พบว่าสถานที่ใด ไม่มีการขออนุญาตดำเนินกิจการต่างๆ ที่ถูกต้อง ก็จะได้ประสานผู้รับผิดชอบมาให้ข้อมูล ร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนต่อไป.
