MGR Online - น.1 สั่งผู้การ 5 ดำเนินคดีสถานบริการย่านทองหล่อและโรงแรม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.โรคติดต่อ เผยใครมีหลักฐานตำรวจดูแลนักการเมืองแจ้งได้ทันที บช.น.เข้มตรวจผู้ประกอบการตามประกาศ กทม.ไม่ปฏิบัติตามจะถูกดำเนินคดี ฝากเตือนปกปิดไทม์ไลน์ระวังมีความผิด
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.กล่าวถึงกรณีมีตำรวจในสังกัด บช.น.ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 24 ราย โดยเชื่อมโยงกับสถานบริการพื้นที่ทองหล่อ ว่า ขณะนี้มีตำรวจเสี่ยงติดเชื้ออยู่ระหว่างกักตัว จำนวน 25 ราย ทั้งผู้ติดเชื้อและผู้กักตัวส่วนใหญ่เกิดจากการไปปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจสถานบริการ และสัมผัสเพื่อนร่วมงาน หรือคนใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนโรคและเข้ารับการรักษาตัวแล้ว
ขณะเดียวกัน ตนได้สั่งการ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ และตำรวจ สน.ทองหล่อ พิจารณาดำเนินคดี 2 กรณี คือ 1. กรณีสถานบริการ หรือสถานประกอบการ ได้แก่ คริสตัล คลับ และเอมเมอรัล คลับ ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายข้อหา ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (มาตรการควบคุมโรค) และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หรือไม่ เบื้องต้นพบว่าสถานที่ทั้ง 2 แห่ง ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด
และ 2. กรณีจัดงานเลี้ยงใน รร.แกรนด์เซ็นเตอร์พอยต์ สุขุมวิท 55 ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามคลิปที่ปรากฏ เพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลรวมถึงจะเรียกผู้แทน รร.และผู้จัดงานเลี้ยงเข้าพบพนักงานสอบสวน ผู้เข้าร่วมงานทุกรายอาจมีความตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (มาตราการควบคุมโรค) และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ โดยทั้ง 2 กรณีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ส่วนกรณีปรากฏคลิปเสียงตามสื่อต่างๆ มีตำรวจติดตามดูแลนักการเมืองที่เข้ามาเที่ยวในสถานบริการ จากรายงานที่ได้รับจาก ผบก.น.5 และ ผกก.สน.ทองหล่อ เบื้องต้นตรวจสอบแล้วยืนยันว่า ไม่มีตำรวจในสังกัดทำหน้าที่ดูแลนักการเมืองแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ใดมีพยานหลักฐานพบว่า ตำรวจรายใดเข้าไปเกี่ยวข้องให้แจ้ง บช.น.หรือ บก.น.5 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงให้สังคมได้รับทราบต่อไป” น.1 กล่าว
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการของ บช.น.หลังจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว และให้สถานบริการเปิดถึงเวลา 23.00 น. ตำรวจได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 หากสถานที่ใดไม่ปฏิบัติตามก็จะตักเตือนก่อน แต่ถ้าดื้อก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ ในการสอบสวนโรคหากผู้ใดจงใจปกปิดข้อมูลการเดินทาง (ไทม์ไลน์) หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จกับเจ้าพนักงานควบคุมโรค อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป