xs
xsm
sm
md
lg

จ่อดำเนินคดี ม.112 เผาพระบรมฉายาลักษณ์ รวมถึง “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน” ม็อบ 6 มี.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - บช.น.ร่ายยาวดำเนินคดีม็อบ 6 มี.ค. แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม เผยพบแล้วทรัพย์สิน โตโต้” นำเข้าสู่สำนวน ตำรวจโดนทำร้ายและโดนปล้นเตรียมแจ้งข้อหา

วันนี้ (9 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.(จต.) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีการประกาศชักชวนชุมนุมในหลายสถานที่ โดยเฉพาะศาลอาญารัชดาฯและสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ว่า บช.น.เตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ประกาศห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค หากมีความเสี่ยงแพร่ระบาดเชื้อโรคจะมีความผิดตามกฎหมาย

สำหรับเหตุการณ์ชุมนุมที่ศาลอาญาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา บช.น.ได้แบ่งการดำเนินกับกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด 6 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มของ นายปิยรัฐ จงเทพ อายุ 31 ปี หัวหน้าการ์ดอาสาวีโว่ รวม 18 ราย จะถูกดำเนินคดีข้อหา “สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อเตรียมการกระทำผิด, เป็นอั้งยี่และซ่องโจร, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค”

2. กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับและหลบหนีไปได้ จะถูกดำเนินคดีข้อหา “หลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงานสอบสวน หรือพนักงานสืบสวนคดีอาญา, สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อเตรียมการกระทำผิด, เป็นอั้งยี่และซ่องโจร, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค”ภายหลังได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน จึงได้ปล่อยตัวออกไป จากนั้นจะพิสูจน์ทราบว่าบุคคลทั้ง 27 ราย เป็นผู้ที่หลบหนีไปจากการควบคุมจริงหรือไม่ หากพิสูจน์ทราบแล้วใช่พนักงานสอบสวน จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน ก็จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน

3. กลุ่มบุคคลทุบทำลายรถของทางราชการ จากนั้นได้ร่วมกันชิงตัวผู้ต้องหา ชิงทรัพย์สินของกลางบางส่วน และทำร้ายตำรวจ จะถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันช่วยเหลือให้ผู้ต้องหา หรือผู้ถูกควบคุมในอำนาจของพนักงานสอบสวน หรือพนักงานสืบสวนคดีอาญา ให้หลุดพ้นจากการควบคุมดูแลของเจ้าพนักงาน, ต่อสู่ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ใช้อาวุธ หรือร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และทำให้เสียทรัพย์ของทางราชการ”

4. กลุ่มบุคคลทุบทำลายแนวรั้วทรัพย์สินของทางราชการศาลอาญา มีการนำสิ่งต่างๆ มาเผารวมถึงพระบรมฉายาลักษณ์ บุกรุกเข้ามาในสถานที่ราชการศาลอาญา และสำนักงานอัยการสูงสุด จะถูกดำเนินคดีข้อหา “บุกรุกสถานที่ราชการในเวลากลางคืน และละเมิดอำนาจศาล”นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาในฐานความผิด “มาตรา 112”

5. กลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ จะถูกดำเนินคดีข้อหา “ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค”

6. กลุ่มบุคคลใช้อาวุธปืนยิงใส่รถตำรวจ กก.ตชด.ที่ 31 ได้รับความเสียหาย 6 คัน พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาในฐานความผิด “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน”

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณี นายปิยรัฐ หรือ โตโต้ อ้างว่า ทรัพย์สินได้สูญหายไประหว่างการถูกจับกุมนั้น จากการตรวจสอบในวันเกิดเหตุมีกลุ่มบุคคล เข้าทุบรถยนต์ของทางราชการ มีการแย่งชิงตัวผู้ต้องหา แย่งชิงของกลางบางส่วนไป และปล้นทรัพย์สินส่วนตัวของตำรวจ พนักงานสวนเข้าตรวจค้นรถได้พบทรัพย์สินของกลางของ นายปิยรัฐ ตามที่กล่าวอ้างแล้ว จึงนำเข้าสู่สำนวนการสอบสวนต่อไป

“หากมีทรัพย์สินของกลางสูญหายจากความบกพร่องของตำรวจ ก็จะมีการพิจารณาในส่วนของข้อบกพร่อง แต่ถ้าข้อเท็จจริงเกิดจากการประทุษร้ายของผู้ชุมนุม เขาต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ ขณะนี้ทรัพย์สินของตำรวจที่สูญหายทั้งพระเหลี่ยมทอง และสร้ายคอยังไม่ได้รับคืน ตำรวจนายดังกล่าวยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ถ้าออกมาแล้วจะมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป” น.2 กล่าว

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงกรณีมีการนัดชุมนุมช่วงเย็นนี้ที่ศาลอาญา เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้สั่งการให้ ผบก.น.ในพื้นที่จัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ให้การชุมนุมกระทบต่อประชาชนโดยส่วนรวม
กำลังโหลดความคิดเห็น