MGR Online - นครบาลสรุปชุมนุม 6 มี.ค. จับกุมม็อบได้ 18 ราย นำตัวฝากขังศาลอาญาพรุ่งนี้ เหตุปะทะตำรวจเจ็บ 7 นาย รถหลวงพัง 9 คัน ยังไม่แจ้งข้อหา 27 ราย ได้รับการช่วยเหลือหลบหนี ผบช.น.แจงจับกลุ่ม “โตโต้” เป็นความผิดซึ่งหน้าเชื่อเตรียมใช้ก่อเหตุ ถามกลับพกมากินข้าวจริงหรือ แจ้งเอาผิด 3 ข้อหา อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานถึงใครดำเนินคดีหมด มาตรการคุมผู้ต้องหาไม่ได้หละหลวม เพียงแต่ปฏิบัติโดยละมุนละม่อมที่สุด รอง ผบช.น.ชี้ติดป้ายบนรั้วศาลมีความผิดบุกรุกสถานที่ราชการ
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.(จต.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.(สส.) และ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะโฆษก ตร.แถลงถึงกรณีการชุมนุมวานนี้ (6 มี.ค.) ได้แก่ 1. กลุ่มรีเดมร่วมกับกลุ่มการ์ดราษฎร ที่ห้าแยกลาดพร้าว-ศาลอาญารัชดาฯ 2. กลุ่มแนวร่วมแดงก้าวหน้า 63 ที่โลตัส รังสิต-กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ฯ (ร.11 ทม.รอ.) 3. กลุ่มมวลชนเดินทะลุฟ้า ที่ตลาดเซียร์รังสิต-ม.เกษตรศาสตร์ และ 4. กลุ่มอาชีวศึกษาปกป้องสถาบัน ที่แยกราชประสงค์
พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนทราบว่ากลุ่มของนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ อายุ 31 ปี หัวหน้าการ์ดอาสาวีโว่ ได้นัดหมายรวมตัวที่ลานจอดรถชั้น 5 ห้างฯ เมเจอร์ รัชโยธิน ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ มีการนำอาวุธและสิ่งของมาใช้ก่อความวุ่นวาย หรือสร้างสถานการณ์ในการชุมนุม จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบกระทั่งพบนายปิยรัฐกับพวกพร้อมของกลางกระเป๋าเป้ภายในบรรจุหนังสติ๊ก 15 อัน หัวนอต 50 ชิ้น ลูกแก้ว 300 ลูก ระเบิดควัน 30 ลูก ถุงน้ำปลาร้า 30 ถุง หมวกกันกระแทก 13 ใบ เสื้อเกราะ 37 ตัว ท่อเก็บแก๊สน้ำตา 1 อัน ค้อนเหล็ก 1 อัน และโล่ 1 อัน จึงยึดไว้ตรวจสอบก่อนควบคุมตัวทั้งหมด
ขณะที่รถออกจากห้างฯ กลุ่มรีเด็ม และกลุ่มการ์ดราษฎรบางส่วนได้เข้ามาทำร้ายร่างกายตำรวจ ต่อสู้และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทุบรถผู้ต้องหาโดยพังประตูรถด้านหลัง ทำให้ผู้ต้องหาบางส่วนหลบหนีไปได้ ต่อมาตำรวจสามารถติดตามตัวนำส่ง บก.ตชด.ภาค 1 ได้จำนวน 18 คน ดำเนินคดีในข้อหา 1. ร่วมกันจัดการชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2. ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหนักงานควบคุมโรคติดต่อฯ และ 3. ฐานเป็นอั้งยี่และซ่องโจร
เหตุการณ์ในครั้งนี้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 7 นาย ในจำนวน 6 นาย เข้าพักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ รถควบคุมผู้ต้องหาเสียหาย 9 คัน ประกอบด้วย รถควบคุมผู้ต้องหา 3 คัน รถบัส 3 คัน รถบรรทุก 2 คัน และรถกระบะ 1 คัน สำหรับผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือให้หลบหนี ได้เข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน 27 คน อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้กระทำความผิดที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทำลายทรัพย์สินราชการ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า กรณีนายปิยรัฐอ้างว่าไม่มีหมายจับแต่ถูกจับกุมได้นั้น จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน มีพยานหลักฐานยืนยันได้ว่ากลุ่มของนายปิยรัฐนัดรวมตัวที่ลานจอดรถชั้น 5 ห้างฯ เมเจอร์ รัชโยธิน มีวัตถุประสงค์ก่อความวุ่นวายในการชุมนุม จากนั้นตำรวจได้เดินทางไปตรวจพบนายปิยรัฐกับพวกทั้งหมดพร้อมของกลาง แม้ก่อนหน้านี้นายปิยรัฐได้โพสต์ในโซเชียลฯ จะไม่เข้าร่วมการชุมนุม ย้ำว่าตำรวจมีความจำเป็นต้องเข้าจับกุม เนื่องจากใกล้เวลาที่กลุ่มผู้ชุมนุมรีเด็มเตรียมเคลื่อนขบวนจากห้าแยกลาดพร้าวเพื่อไปชุมนุมที่ศาลอาญา เกรงว่าจะก่อเหตุรุนแรง หรือก่อความวุ่นวายในบริเวณชุมนุม จึงทำการจับกุมระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหา ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าชิงตัวผู้ต้องหาเป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ มีทรัพย์สินของทางราชการ และของผู้ต้องหาสูญหายหลายรายการ
การจับกุมกลุ่มของนายปิยรัฐ ตำรวจเชื่อว่าจะเตรียมเข้าร่วมชุมนุมด้วย เนื่องจากพบหนังสติ๊ก ลูกเหล็ก หัวนอต ลูกแก้ว ระเบิดควัน ท่อเก็บแก๊สน้ำตา วิทยุสื่อสาร ตนขอถามว่าพกมากินข้าวตามที่กล่าวอ้าง หรือพกไปชุมนุมกันแน่ กรณีไม่มีหมายจับนั้นสามารถทำได้เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า ในขณะที่หลังการชุมนุมมีผู้มาแสดงตนว่าเป็นผู้ที่ถูกช่วยเหลือออกจากรถควบคุม 27 คน ตำรวจไม่สามารถแจ้งข้อหากล่าวได้เพราะไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดว่า ใช่บุคคลที่หลุดจากรถควบคุมจริงหรือไม่
“เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 18 ราย ยังไม่มีใครได้รับการประกันปล่อยตัว ในพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) พนักงานสอบสวนเตรียมนำตัวฝากขังที่ศาลอาญา อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากไปถึงใครก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าต้องจับกี่คน ตำรวจปฏิบัติตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ตำรวจใช้ความรุนแรง หรือไม่รุนแรงขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างเหตุการณ์ชิงตัวผู้ต้องหาให้พ้นการจับกุม หากไม่เกิดขึ้นก็จะไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนมาตรการควบคุมตัวผู้ต้องหาหละหลวมหรือไม่ การชุมนุมที่ ร.11 ทม.รอ.มีความรุนแรง ตำรวจจึงจับกุมและพยายามเอาออกให้เร็วที่สุด ระหว่างนั้นเกิดการปะทะตำรวจถูกทำร้าย ถูกยิงด้วยลูกเหล็ก และถูกขว้างปาสิ่งของ ตำรวจพยายามปฏิบัติโดยละมุนละม่อมที่สุด” น.1 กล่าว
พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวว่า กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมนำแผ่นป้ายข้อความไปติดตั้งบนรั้วศาลอาญา เป็นการบุกรุกสถานที่ราชการในเขตอำนาจศาล ตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว หลังจากนี้เตรียมหารือกับศาลว่าจะดำเนินการอย่างไร สำหรับการรับมือชุมนุมในวันนี้ (7 มี.ค.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ไม่ได้ขัดขวาง หรือห้ามการชุมนุม เมื่อถึงเวลาประกาศห้ามชุมนุมก็แจ้งให้ทราบ อย่างไรก็ตาม ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีในภายหลัง ตำรวจพยายามรักษาความสงบ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน