MGR Online -“บิ๊กอู๊ด” เผยอยู่ระหว่างขยายผลจับกุมคนร้ายใช้ปืนยิงรถขนกำลังพล ระหว่างวิ่งจากศาลอาญาไป สน.พหลโยธิน ยันเป็นกระสุนปืนจริง ส่วนเหตุชิงตัวผู้ต้องหา พบว่า พระเครื่องตำรวจ เงินสด และทรัพย์สินหลายรายการหายไป เตรียมแจ้งข้อหา “ปล้นทรัพย์”
วันนี้ (8 มี.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ได้มีคนร้ายยิงปืนใส่รถ ตชด.ที่ใช้บรรทุกกำลังพล 3 คัน ว่า วันเกิดเหตุ เวลา 23.00 น. ระหว่างเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางกลับจากศาลอาญารัชดาฯมุ่งหน้าไปยัง สน.พหลโยธิน ปรากฏว่า กลุ่มบุคคลไม่ทราบจำนวนและเป็นใคร ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถ 3 คัน กระสุนทะลุรถ จากการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นทราบว่า เป็นกระสุนปืนจริงส่วนจะเป็นประเภทใด ขนาดใด และกี่กระบอกอยู่ระหว่างขยายผลหาตัวผู้กระทำผิด ยืนยันว่า ร่องรอยกระสุนที่พบในรถคันเกิดเหตุเกิดจากกระสุนปืน
สำหรับกรณีรถควบคุมผู้ต้องหาถูกดักและเกิดเหตุลักษณะชิงตัว ตนทราบว่า ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา ขณะนำไปสอบปากคำได้ถูกกลุ่มบุคคลหยุดรถ เข้าทำร้ายร่างกายและแย่งชิงตัวผู้ต้องหา ระหว่างนั้นได้ชิงเงินสดของกลางที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหา และชิงเอาพระเครื่องของตำรวจไป รวมถึงทรัพย์สินอีกหลายรายการของผู้ต้องหาและตำรวจ อยู่ระหว่างตรวจสอบโดยละเอียด นอกจากนี้ อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบกรณีเงินสกุลต่างประเทศของ นายปิยรัฐ หรือ โตโต้ จงเทพ อายุ 31 ปี หัวหน้าการ์ดอาสาวีโว่ ในกระเป๋าหายไป
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.(จต.) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า การก่อเหตุลักษณะชิงตัวผู้ต้องหามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 191 ข้อหา “การช่วยเหลือนำพาผู้ต้องหาให้หนีไปจากการควบคุมของพนักงานสอบสวน หรือพนักงานสืบสวนคดีอาญา”นอกจากนี้ ถ้าพยานหลักฐานไปถึงผู้หนึ่งผู้ใดที่มีการนำของกลาง หรือชิงปล้นของกลางเงินสดที่หายไป รวมทั้งทรัพย์ของข้าราชการตำรวจจะมีความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์” อีกส่วนหนึ่งด้วย.