MGR Online - น้อง“ส.ท.ดำ” ร้องกองปราบช่วยสางคดีพี่ชายถูก ส.อบต.สวนพริกไทย และพวกรุมยำจนเสียชีวิต หลังผู้ต้องหาโดนแค่คดี “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย”
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. น.ส.มนต์ณัฐ ยิ้มเเย้ม อายุ 49 ปี น้องสาว นายดำรงค์ ยิ้มแย้ม หรือ “ส.ท.ดำ” อดีตผู้สมัคร สมาชิก อบจ.ปทุมธานี ลูกทีม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ด นายก อบจ.ปทุมธานี เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เฟื่องฤทธิ์ ศรีนวล รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลัง นายดำรงค์ พี่ชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เเต่ตำรวจ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี เจ้าของคดีกลับเเจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุเพียงแค่ “ทำร้ายร่างกาย”
น.ส.มนต์ณัฐ กล่าวว่า วันนี้ได้นำใบชันสูตรศพจากโรงพยาบาลตำรวจ ที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของนายดำรงค์ พี่ชาย มาให้กองปราบไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งมีการระบุว่า เสียชีวิตจากอาการสมองบวม เลือดออกในโพรงอากาศของกะโหลกศีรษะของหน้าผากทั้ง 2 ข้าง จำนวนมาก สันนิษฐานเกิดจากการได้รับการกระแทกจากแข็งไม่มีคม ซึ่งเชื่อว่า เป็นผลพวงจากเหตุการณ์ที่นายดำรงค์ ถูก นายวันชัย อาดำ หรือ บังอีฟ อายุ 42 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสวนพริกไทย และ นายวิศรุต หมุดโต หรือ กิ๊ป อายุ 24 ปี รุมทำร้าย เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ ได้มีอาการปวดหัวและอาเจียนตลอดเวลา กระทั่งวันที่ 22 ม.ค. อาการรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นหมดสติ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ม.ค. โดยขณะนั้นแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ปอดอักเสบ ทำให้ญาติติดใจจนต้องนำศพชันสูตรซ้ำที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลตำรวจจนผลออกมาตรงกันตามขั้นต้น
น.ส.มนต์ณัฐ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน หลังนายดำรงค์เสียชีวิต นายวันชัย และ นายวิศรุต สองผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี แต่ทางพนักงานสอบสวนกลับแจ้งเพียงข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น” ก่อนรีบทำสำนวนส่งฟ้องอัยการทันที โดยไม่บอกรายละเอียดคดีใดๆ กับพวกตนที่เป็นญาติผู้เสียหายเลย จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเร่งรีบเกินความจำเป็น ประกอบข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น” ที่พนักงานสอบสวนแจ้งเอาผิดผู้ก่อเหตุทั้งสอง ก็เป็นเพียงข้อหาที่มีโทษสถานเบา เพียงแค่ปรับเท่านั้น จึงเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร อยากขอให้ทางกองปราบช่วยรับโอนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบ เพราะเกรงว่าจะมีผู้มีอิทธิพลเข้ายุ่งเกี่ยวกับกระบวนการกฎหมายจนตำรวจท้องที่ไม่กล้าดำเนินการ
เบื้องต้นตำรวจกองปราบปรามรวบรวมหลักฐาน สอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป