xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญาให้ประกัน 8 ผู้ต้องหาคณะราษฎร ชุมนุมปะทะ จนท.ตำรวจ ที่ศาลหลักเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันผู้ชุมนุมและการ์ดม็อบคณะราษฎร 8 ราย ก่อเหตุปะทะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และ ศาลหลักเมือง ในวงเงินประกันคนละ 3.5 หมื่นบาท


วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ยื่นคำร้องขอฝากขังผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ผู้ชุมนุมและการ์ดคณะราษฎร 8 คน ประกอบด้วย นายจิตรกร แจคโคบี จูเนียร์, นายพรพรหม คงตระกูล, นายปัฐกรณ์ จาภรณ์, นายทองนพเก้า ใจไทย, นายธนเดช วรรณโพธิ์กลาง, นายอดิศักดิ์ ผาลา, นายชัยณรงค์ สมพลกรัง และ นายปุรพล วงศ์เจียก ผู้ต้องหาที่ 1-8 ตามลำดับ เพื่อทำการสอบสวนกรณีร่วมกันจัดกิจกรรมชุมนุมของกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2564 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยพนักงานสอบสวนขอให้ศาลสอบผู้ต้องหาและไต่สวนพยานหลักฐานผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ (Video Conference) เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศาลจึงอนุญาตให้สอบผู้ต้องหาและไต่สวนคำร้องขอฝากขังได้

ศาลไต่สวนคำร้องขอฝากขังแล้วมีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้องและข้อคัดค้านของผู้ร้องทั้ง 8 คนแล้วเห็นว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้รับตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน จากเจ้าพนักงานตำรวจ สน.ชนะสงคราม และ ตำรวจกองกำกับการควบคุมฝูงชน นำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2564 เวลา 03.00 น. โดยผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว วันนี้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังภายในกำหนด 48 ชั่วโมง

พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 8 คน อ้างว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้อสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 11 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา และรอรายงานผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของเจ้าพนักงานตำรวจและพยานที่ได้รับบาดเจ็บ กรณีจึงมีเหตุผลและความจำเป็นต้องฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวน แม้ผู้คัดค้านจะอ้างว่า กรณีการฝากขังระหว่างสอบสวนไม่มีเหตุจำเป็นตามกฎหมาย ประกอบกับพนักงานสอบสวนสามารถสอบสวนพยานหลักฐานได้โดยไม่ต้องฝากขังและผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนีก็ตาม

แต่เมื่อพนักงานสอบสวนอ้างว่า คดีนี้มีความจำเป็นต้องฝากขังผู้ต้องหาระหว่างทำการสอบสวน เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติม และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ที่พนักงานสอบสวนมีอำนาจยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลได้หลายครั้ง แต่รวมกันทั้งหมดต้องไม่เกิน 48 วัน ซึ่งเป็นกระบวนการก่อนฟ้องที่มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ต้องหาอยู่ในอำนาจของศาล เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะมีตัวจำเลยในการพิจารณาคดีของศาล ทั้งผู้ต้องหาทั้ง 8 คนมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวอยู่แล้ว ข้อคัดค้านของผู้ต้องหาไม่ขึ้น จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้

ต่อมา นายประกันผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอาญาพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ระหว่างสอบสวนตลอดจนถึงชั้นพิจารณาชั่วคราว โดยกำหนดวงเงินประกันคนละ 35,000 บาท และศาลได้แจ้งคำสั่งปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 8 คนแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ น.ส.คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความเพื่อสิทธิมุษยชน เป็นทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย มาขอยื่นประกันผู้ต้องหา

น.ส.คุ้มเกล้า เปิดเผยว่า ตนรับมอบอำนาจจากผู้ปกครองเเละญาติของผู้ต้องหา นำเงินสดมายื่นขอประกันตัวทั้ง 8 คนต่อศาล โดยยื่นประกันต่อคน คนละ 35,000 บาท ให้เหตุผลว่าทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ไม่มีพฤติกรรมยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน มีเเหล่งที่อยู่อาศัยชัดเจน ตามตัวได้

สำหรับ 1ใน 8 ผู้ต้องหา อายุ 19 ปี (นายปุรพล วงศ์เจียก ) ที่เป็นอาสาสมัครทีมเเพทย์ DNA เเละปรากฏภาพถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายขณะเข้าจับกุมในวันเกิดเหตุนั้น เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมขว้างปา ทำลายข้าวของ หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ เเต่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือด้านการพยาบาล โดยมีหลักฐานเป็นกระเป๋าเเพทย์ใช้ปฐมพยาบาลรวมถึงเสื้อกั๊กสะท้อนเเสงสัญลักษณ์อาสาสมัครเเพทย์ที่ติดตัว และมีพยานเป็นบุคลากรทางการเเพทย์ของกลุ่ม DNA ยืนยันได้

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าอาสาทางการแพทย์คนดังกล่าวมีร่องรอยบาดเจ็บเป็นรอยลักษณะเป็นทางยาวที่บริเวณหลังและแขนน่าจะถูกกระบองฟาด ทั้งนี้อยู่ระหว่างการปรึกษากันว่าหลังจากนี้เตรียมเเจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ทำร้ายอาสาสมัครทางการเเพทย์รายนี้ รวมถึงผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 7 คนด้วย

ด้าน นายเกียรติตระกูล ใจไทย อายุ 47 ปี เป็นนักเขียนนามปากกา “บิ๊กป๋วยใจไทย” พ่อของผู้ต้องหา อายุ 19 ปี อีกราย (นายทองนพเก้า ใจไทย ) เล่าว่า ตัวเองเห็นข่าวอาสาสมัครทางการแพทย์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายก่อนจับกุมตัวไป ก็เริ่มตกใจเนื่องจากรู้ภายหลังว่าลูกชายเข้าร่วมการชุมนุมในวันนั้นด้วย และไม่สามารถติดต่อได้เลยหลังเกิดเหตุ กระทั่งเมื่อ 10.00 น. ของวันนี้ เพิ่งทราบว่า ลูกชายของตนถูกคุมตัวไปไว้ที่ ตชด.ภ.1 จากการพูดคุยกับลูกชาย 5 นาที ลูกชายยอมรับว่าอยู่ในจุดเกิดเหตุจริง แต่ส่วนตัวฝากตั้งคำถามไปถึงเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อลูกชายตนยอมทรุดนั่งลงกับพื้นยอมให้จับกุมแล้วเหตุใดจึงยังต้องทำร้ายร่างกายขนาดนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น