MGR Online - น.2 นำแถลงผลระดมกวาดล้าง 400 กว่าคดี ยึดยาบ้า ไอซ์ เฮโรอีน และเคตามีน ตำรวจสืบ 5 โชว์จับแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ก่อเหตุทั่วกรุงแบ่งหน้าที่กันทำ 5 คน ผงะพบ 8 เดือนก่อเหตุ 300 คัน ส่งขายเพื่อนบ้าน 300 คัน เร่งล่าคนรับซื้อคาดเงินหมุนในบัญชีหลัก 30 ล้านบาท
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สําราญ นวลมา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.สส.บก.น.5 แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และยาเสพติดในพื้นที่ บช.น.ระหว่างวันที่ 14-21 ม.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 420 คดี ผู้ต้องหา 459 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 1.2 แสนเม็ด ไอซ์ 31 กก. เฮโรอีน 4.5 กก. เคตามีน 3 กก. อาวุธปืน 13 กระบอก
พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า คดีแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 สามารถจับกุม นายปรเมท หรือ ปาล์ม อายุ 18 ปี นายพงศ์ศักดิ์ หรือ ก้อง อายุ 20 ปี นายสถาพร หรือ เนย อายุ 23 ปี นายวรุฒ หรือ แซม อายุ 26 ปี และ นายอนุรักษ์ หรือเอ๊าะ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางรถจักยานยนต์ 10 คัน ป้ายทะเบียน 15 แผ่น ป้ายภาษี 3 แผ่น ใบจดทะเบียน 3 แผ่น เหล็กแหลม 10 อัน ประแจตัวที 3 อัน เบ้ากุญแจ 3 อัน แท่งฝังแม่เหล็กหัวท้าย 2 อัน จับกุมได้บริเวณบ้านเลขที่ 127/1 ซอยบางกระดี่ 1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์หายจำนวนมาก ในพื้นที่ บก.น.5 โดยเฉพาะยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นอาร์ 15 ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นประเทศปลายทางของแก๊งดังกล่าว ได้ส่งขายไปแล้วประมาณ 300 คัน และมีอีกนวนหนึ่งที่รอการส่งขาย เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ด่านตรวจลดน้อยลงก็เป็นช่องทางให้คนร้ายก่อเหตุ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.จึงมีนโยบายติดตั้งกล้องซีซีทีวี ประมาณ 5,000 จุด จนสามารถจับกุมคนร้ายได้
พ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวว่า ตัวล็อกคอรถระบบแม่เหล็กคนร้ายสามารถปลดได้ จากนั้นใช้เหล็กแหลมแทงไปที่รูกุญแจแล้วบิด ต่อสายตรงขโมยขับออกไปได้ทันที การป้องกันควรใช้แม่กุญแจ หรือโซ่ล็อกที่ดิสก์เบรก เพราะจะเสียเวลาในการลักรถ เตือนประชาชนที่ไม่ป้องกันแถมยังเสียบกุญแจทิ้งไว้ คนร้ายสามารถลักรถได้ภายในไม่กี่วินาที จากการตรวจสอบประวัติทราบว่า ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2562 ทั่วกรุงเทพฯ คาดว่าศึกษาวิธีการก่อเหตุจากคนในเรือนจำ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พฤติการณ์ของแก๊งจะมีหน่วยหน้า ออกไปสำรวจรถที่เหมาะแก่การลัก หรือไม่คล้องโซ่ เมื่อเจอรถเป้าหมายจะถ่ายรูปส่งให้อีกคนทำการแทงคอรถ นำไปเก็บซุกซ่อนที่บ้านเลขที่ 127/1 ซอยบางกระดี่ 1 แล้วติดต่อผู้ซื้อก่อนส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในช่วงประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมา ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์มากกว่า 300 คัน มีเงินหมุนเวียนในบัญชี 3 ล้านบาท ส่วนผู้รับซื้อคาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท อยู่ระหว่างขยายผลจับกุมผู้ซื้อและเครือข่ายต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และรับของโจร” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.