MGR Online - รองโฆษก ตร.เข้าพบทูต ชี้แจงความคืบหน้าคดีสิบเวร สภ.บ่อผุด ข่มขืนหญิงสาวชาวเมียนมาบนโรงพัก หลังโซเชียลฯ แชร์ข้อมูลสับสน ยืนยันดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัยและอาญา
จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “ขบวนการกลุ่มแฮกเกอร์ใต้ดินเมียนมา” ได้ลงข้อความบิดเบือนชี้นำให้เห็นว่าตำรวจไทยใช้อำนาจไปข่มขืนหญิงชาวเมียนมา และมีการตั้งคำถามว่ากฎหมายไทยอนุญาตให้ตำรวจไทยข่มขืนหญิงชาวเมียนมาที่ถูกพิจารณาคดีในประเทศไทยได้หรือไม่ ก่อให้เกิดความสับสนในประเด็นดังกล่าวนั้น
ล่าสุด วันนี้ (19 ม.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ได้เดินทางเข้าพบนายเมียว เมียนตัน (Myo Myint Than) เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
โดยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 64 ได้มีหญิงชาวเมียนมาเพิ่งพ้นโทษจากศาลในคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ จึงถูกส่งตัวมาควบคุมที่ สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรอส่งตัวไปยัง ตม.เกาะสมุย และดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต่อไป ต่อมาวันที่ 13 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 01.50 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเบิกตัวหญิงชาวเมียนมาคนดังกล่าวออกจากห้องควบคุม พาไปข่มขืนกระทำชำเรา และนำกลับมาควบคุมดังเดิม ต่อมาผู้เสียหายได้แจ้งให้ญาติทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวและแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุ
พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหา 1. ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ ตาม ม.276, 2. เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ม.157, 3. เป็นเจ้าพนักงานกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้ที่อยู่ในระหว่างคุมขังนั้นหลุดพ้นจากการคุมขังไป ตาม ม.204 ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุ อีกทั้งทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว พร้อมมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งต่อมานาย HTET WAI PHYO ทูตแรงงานเมียนมาประจำประเทศไทย ได้เดินทางมายัง สภ.บ่อผุด เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดี และรับทราบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวถึงการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังจากการชี้แจงข้อเท็จจริงและความคืบหน้าในการดำเนินคดีแล้ว เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยได้รับทราบและเข้าใจถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะนำข้อมูลที่รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงในประเด็นข้างต้นไปชี้แจงต่อทางรัฐบาลเมียนมา และประชาชนเมียนมาให้ทราบและเข้าใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อไป
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้ติดตามคดีดังกล่าวมาโดยตลอด พร้อมกำชับไปยังผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมาย ภายในกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด แม้ผู้ต้องหาจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตาม ทั้งในส่วนของคดีอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่มีละเว้น อีกทั้งให้ทำคดีด้วยความโปร่งใส สามารถตอบคำถามสังคมได้ และได้กำชับมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวด้วยว่า ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือบิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ความมั่นคง ความปลอดภัยสาธารณะ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน อาจจะเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีโทษจำคุก โทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนและสื่อมวลชนขอให้รับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนโพสต์ หรือแชร์ เพื่อป้องกันความสับสนและสร้างความตื่นตระหนกต่อสังคม