MGR Online - ปคบ.สนธิ อย. บุกทลายโกดัง จ.ปทุมธานี นำถุงมือทางการแพทย์ใช้แล้วมาบรรจุนำมาขายใหม่ ตรวจยึดของกลางเพียบ แนะหาข้อมูลแหล่งที่มาก่อนนำไปใช้
วันนี้ (12 ม.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานด้านปราบปรามผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพที่ผิดกฎหมาย พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. และ เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมแถลงผลการเข้าตรวจยึดถุงมือทางการแพทย์มือสองจำนวนมาก ภายในโกดังย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ปคบ. สืบทราบว่า โกดังแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ลักลอบแบ่งบรรจุถุงมือทางการแพทย์นำกลับมาใช้เพื่อจำหน่ายใหม่ จึงประสาน อย. และ สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้น ซึ่งพบว่าคนงานกำลังคัดแยกถุงมือยาง และถุงมือไนไตรล์สีฟ้าที่มีสภาพเหมือนถุงมือใช้แล้ว บรรจุลงกล่องที่มีสัญลักษณ์ทางการแพทย์ขายเป็นถุงมือทางการแพทย์ยี่ห้อ NA เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางเป็นถุงมือรอการคัดแยก 654 กระสอบ, กล่องบรรจุภัณฑ์ 30,000 กล่อง, ถุงมือรอบรรจุ, ถุงมือพร้อมจำหน่าย และอุปกรณ์การผลิตไว้ทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ท.เพิ่มพูน เผยว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ปคบ. ได้มีการตรวจยึดถุงมือยางทางการแพทย์ ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นความผิดรายใหญ่ได้จำนวน 2 ราย พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าไม่ให้จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาที่สูงเกินจริง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบปลายทางของสินค้าซึ่งคาดว่าจะจำหน่ายภายในประเทศและต่างประเทศ
“เครือข่ายนี้จะใช้ 3 วิธีการ คือ 1. การนำเข้าถุงมือยางจากต่างประเทศมาบรรจุเป็นยี่ห้อของตัวเองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. นำเข้าถุงมือยางจากต่างประเทศในราคาถูก และมาย้อมแมวเป็นถุงมือยางทางการแพทย์ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าทางสินค้า และ 3. วิธีการที่แย่ที่สุด นำถุงมือยางที่ใช้งานแล้วมาทำความสะอาดก่อนนำใส่บรรจุภัณฑ์ออกจำหน่ายใหม่เหมือนถุงมือยางมือหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้ที่นำไปใช้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ”
ส่วนทาง เภสัชกรหญิง สุภัทรา กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ทำให้การลักลอบผลิตถุงมือรายใหญ่กลับมาอีกครั้ง กรณีนี้มีการแสดงฉลากระบุสัญลักษณ์เกี่ยวกับโรงพยาบาลและฟัน ซึ่งอาจทำให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าใจผิดได้ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ตรวจสอบรายชื่อผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าที่ได้รับอนุญาตทางเว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หัวข้อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ และหากพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556 หรือเดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ได้ทุกวันในเวลาราชการ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐานไม่จดทะเบียนสถานประกอบการผลิตเครื่องมือแพทย์ และฐานผลิต/ขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ มีโทษสูงสุด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ