คอลัมน์ "ถอนหมุดข่าว"
พวกฉวยจังหวะหากินบนความทุกข์ร้อนประชาชนโผล่มาทุกรอบ คราวก่อนโควิด-19 ระบาดรอบแรก กักตุนหน้ากากร่ำรวย บัดนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้
มาครั้งนี้ไม่เข็ดไม่หลาบ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ลักลอบนำเข้าและแบ่งบรรจุถุงมือยางใช้แล้ว ซ้ำเติมความทุกข์ยากอีกรอบ
วันก่อน พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำตรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานปราบปรามผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพที่ผิดกฎหมาย พร้อมตัวแทนคณะกรรมการอาหารและยาและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
บุกร้านเดอะซีรี่ย์ 90 ผับแอนด์เรสเตอรองท์ ซอยเพชรเกษม 81 ถ.มาเจริญ แขวงและเขตหนองแขม หลังได้รับการร้องเรียนมีการลักลอบผลิตถุงมือทางการแพทย์ภายในสถานบันเทิง
ตำรวจยึดของกลางถุงมือรอการบรรจุประมาณ 3 ล้านชิ้น กล่องเปล่า 95,000 ใบ รวมมูลค่าสูงถึงประมาณ 200 ล้านบาททีเดียว
ตอนเจ้าหน้าที่เข้าไป พบคนงานกำลังคัดแยกถุงมือยางหลากสีที่มีสภาพทั้งดีและเสียมีสภาพใช้แล้ว ใส่ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่แบ่งตามสี เพื่อรอบรรจุลงกล่อง ขายเป็นถุงมือทางการแพทย์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาในความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐานไม่จดทะเบียนสถานประกอบการผลิตเครื่องมือแพทย์และฐานผลิต ขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ปลอดภัยในการใช้
แต่ที่เซอร์ไพร์สกว่า กลิ่นตุๆ ก็เพราะสินค้าล็อตนี้ที่จับได้ ดันบังเอิญมีลักษณะคล้ายกล่องสินค้าที่ ซึ่งเป็นของกลางที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เคยจับกุมไปก่อนหน้านี้
ตอนนี้ตำรวจกำลังหาเจ้าของและแหล่งที่มาอีกครั้ง แต่ดูแล้วไม่ยากที่จับดมกลิ่น เพราะคนดูแลโกดัง หลุดปากมาว่า เคยพบผู้ว่าจ้างอักษรย่อ “พ.” ขณะที่เจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ที่เก็บถุงมือยาง ปรากฏว่า เป็นของ “พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์” ซึ่งเคยเป็นหุ้นส่วนก่อนปิดตัวลงในช่วงโควิด-19 ระบาด
ไปๆ มาๆ เหมือนเจ้าหน้าที่จะเดจาวู เพราะชื่อ “พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์” นี้ เป็นนักการเมืองคนดัง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ ที่โควิด-19 ระบาดรอบแรก พัวพันขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยอันลือลั่นมาแล้วรอบหนึ่ง
ในช่วงอื้อฉาวเรื่องกักตุนหน้ากาก เคยมีการลากคอนเนกชั่น “พันธ์ยศ” ว่า สนิทสนมกับอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย หลายคน โดยเฉพาะ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
โดยมีการปะติดปะต่อสายสัมพันธ์ว่า “พันธุ์ยศ” สนิทสนมกับ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร หัวหน้าพรรคภราดรภาพ ที่เคยสังกัดก๊วนกลุ่มวังน้ำยมของ “สมศักดิ์” สมัยอยู่ไทยรักไทย ก่อนจะติดสอยห้อยตามมาอยู่พรรคมัชฌิมาธิปไตยด้วย
ในปี 2562 ร.อ.รชฏ กลับมาทำการเมือง โดยชักชวน ม.ร.ว.ดำรงดิศ ดิศกล มาเป็นหัวหน้าพรรค และ “พันธ์ยศ” เป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่สมาชิกมีคนในกลุ่มวังน้ำยมเก่าหลายคน อาทิ นพ.รวยลาภ เอี่ยมทอง อดีต ส.ส.กทม.ไทยรักไทย
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ “พันธ์ยศ” ตกเป็นข่าวอยู่ในขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย “สมศักดิ์” เคยออกมาปฏิเสธว่า ไม่รู้จัก “พันธุ์ยศ” รู้จักแต่ ร.อ.รชฎ พร้อมสอบถามไปด้วยว่า หมอนี่เป็นใคร
“สมศักดิ์” ยังยืนยันว่า พรรคภราดรภาพ ไม่ได้เป็นพรรคนอมินี หรือพรรคอะไหล่ของตัวเอง กรณีอยู่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้
สำหรับ “พันธ์ยศ” ก่อนลงเล่นการเมือง เคยจับธุรกิจอาหารเสริมความงามเพื่อสุขภาพในแบรนด์ ไทยเฮลท์ แต่ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังทำธุรกิจอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทีวีดาวเทียมและวิทยุชุมชน ไว้ใช้โปรโมทธุรกิจอาหารเสริมเป็นหลัก ภายใต้อาณาจักร ไทยเฮลท์ ของตัวเอง โดยมีหลักแหล่งอยู่ย่านฝั่งธนบุรี และหนองแขม รวมไปถึงธุรกิจเครือข่ายขายตรง ที่เจ้าตัวประสบความสำเร็จ
ในช่วงต้นปี 2563 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านเพชรเกษม 27 โดยถูกมองว่า เกี่ยวโยงกับการกักตุนหน้ากากอนามัย เพื่อค้ากำไร โดยสายตรวจกรมการค้าภายใน ได้ตรวจสอบแล้วพบการกักตุนหน้ากาก 1,500 ชิ้น
“พันธ์ยศ” ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ 122/2563 ในฐานความผิดจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า(หน้ากากอนามัย) อันมีความผิดตามมาตรา 29 และมีโทษตามมาตรา 41 พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542
และข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งปริมาณตามสถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย แผนการผลิต กระบวนการผลิต และวิธีการจำหน่ายสินค้าหรือบริการควบคุมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ในอดีต ยังเคยถูกผู้ประกอบการจัดทัวร์แจ้งความดําเนินคดีความผิดเกี่ยวกับเช็คธนาคารกสิกรไทย จํานวน 1 ฉบับ หลังเอกชนชาวจีนสั่งหน้ากากอนามัย จ่ายเงินมัดจำแล้ว แต่ได้ของไม่ครบ
เรียกว่า คดีทำนองนี้มีเป็นหางว่าว แต่ยังลอยหน้าลอยตามาถึงวันนี้ แถมยังมีชื่อว่า พัวพันถุงมือยางรอบนี้อีก ไม่เส้นใหญ่ ทำไม่ได้แน่