ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว 9 คู่ สุดเซ็งร้อง “ทนายรณณรงค์” ช่วย เผยว่าจ้างออร์แกไนเซอร์จัดงานแต่ง วาดฝันเลิศหรู สุดท้ายถูกเบี้ยว สูญเงินมัดจำร่วมกว่า 1.5 ล้านบาท แฉเปลี่ยนชื่อ-ใช้ชีวิตปกติ สุดแสบเผยประวัติสองปีที่ผ่านมาเคยชักดาบเงินลูกค้ามาแล้ว
วันนี้ (10 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ สวนสุขภาพ ชุมชนกฤษดานคร ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คู่บ่าวสาว จำนวน 9 คู่ ได้เดินทางเข้าพบทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูก นายกิตตินันท์ ศิริโชติ บริษัท ทีแอนที ออร์แกไนเซอร์ รับจัดงานแต่งครบวงจร ในเพจเฟซบุ๊กสาธารณะ ก่อนจะรับโอนเงินจากผู้เสียหายและทิ้งงานสร้างความเสียหายให้แก่คู่บ่าวสาวทั้ง 9 คู่ เป็นเงินกว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท ต้องหาออร์แกไนเซอร์รายใหม่มาทดแทนเบื้องต้นมีผู้เสียหายได้เดินทางทยอยเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มอีกหลายราย
น.ส.ภัชสุดา แสงสุวรรณ อายุ 28 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ได้แจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด โดยกล่าวว่า ทางเราได้รู้จักออร์แกไนเซอร์ผ่านโซเชียลมีเดียทางเฟซบุ๊ก และยิงแอดโฆษณาเพื่อให้เราสนใจ และราคาไม่แพงมาก และเข้าไปดูสถานที่มา 2 ครั้ง จนได้มีการจัดทำสัญญากันที่เมืองทองธานี เราได้มีการโอนเงินเข้าไปและไม่ตอบไลน์ เลยรู้สึกแปลกๆ จึงเข้าไปดูสถานที่งานจัดงานว่ามีการจัดงานแต่งจริงหรือไม่ ปรากฏว่าจัดงานไม่พร้อมบ้าง ไม่มีการจัดงาน เราจึงรู้ว่าโดนโกง ทางคู่เราโดนโกงเงินไปประมาณ 2 แสนบาท โดยโอนครั้งเดียวจบ แต่ยอดเต็มราคา 4 แสนบาท และมีผู้เสียหายจำนวนมากที่โดนออร์แกไนเซอร์คนเดียวกันโกงเงิน
เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความไว้ที่ ส.ภ.ปากเกร็ด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องไว้แต่เรื่องไม่คืบหน้า จึงเข้าเดินทางมาร้องทนายรณณรงค์เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะออร์แกไนเซอร์คนนี้ ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีการเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย และมีการเปลี่ยนชื่อนามสกุล และอยากฝากถึงออร์แกไนเซอร์ให้ออกมารับผิดชอบ เพราะมีผู้เสียหายหลายคนมาก
ทาง น.ส.กัญชิญา สาโรจน์จิตติ อายุ 27 ปี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ได้ติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กและดูรีวิวประมาณเดือนตุลาคมที่ติดต่อไป วันที่จัดงานไม่เจอตัวออร์แกไนเซอร์ แต่ทางเราติดต่อไปแต่ยังคงติดต่อได้อยู่ โดยตนโอนเงินไปรอบแรกจำนวน 1 แสน 8 หมื่นบาท เป็นค่ามัดจำ และรอบสองโอนไปอีกจำนวน 5 หมื่นบาท รวมเงินแล้วเสียไปประมาณ 2 แสน 3 หมื่นบาท อยากฝากบอกถึงออร์แกไนเซอร์ให้เอาเงินมาคืน เพราะผู้เสียหายมีหลายคน และจำนวนเงินเยอะพอสมควร อยากให้ทนายรณณรงค์ช่วยเหลือติดตาม เพราะตนเข้าแจ้งความไปแล้ว แต่คดีไม่ดำเนิน แจ้งความไว้วันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับตนว่ายังไม่ถึงวันงานที่จะจัด ยังไม่เข้าข่ายฉ้อโกง แต่เมื่อถึงวันงานจริง เราได้เข้าไปแจ้งความไว้อีกรอบ เพราะออร์แกไนเซอร์ทิ้งงานตนและไม่มา ตนจึงเข้าไปหาออร์แกไนเซอร์รายใหม่เพื่อให้งานแต่งดำเนินต่อไป
นายรณณรงค์กล่าวว่า วันนี้มีคู่บ่าวสาวประมาณ 9 คู่ เข้ามาร้องเรียนว่าได้จ้างออร์แกไนเซอร์จัดงานแล้วปรากฏว่าออร์แกไนเซอร์ชิ่งหนี เก็บมัดจำไปแล้วเก็บค่าจ้างไปแล้วยังไม่หมด ไม่เพียงเท่านี้ยังมีผู้เสียหายในไลน์กลุ่มอีกซึ่งออร์แกไนเซอร์เจ้านี้เมื่อสองปีที่แล้วเคยมีคู่บ่าวสาวมาร้องเรียนกับตนที่สำนักงานมาแล้ว เพราะงั้นรอบนี้จะได้เอาให้มันชัดว่าตกลงตั้งใจโกงรึป่าว ถ้าไม่ตั้งใจโกงก็ให้ปรากฏตัวมาและมาเคลียร์เงินกัน หรือไม่อย่างงั้นก็ต้องใช้กฎหมาย หลังจากนี้ก็จะให้ผู้เสียหายรวมกลุ่มไปยื่นเรื่องที่กองปราบปรามให้ดำเนินการให้ เพราะผู้เสียหายมีหลากหลายจังหวัดและหลายพื้นที่มากเลย ตนก็ไม่รู้จะเตือนผู้ที่โดนหลอกยังไง ก่อนที่จะตัดสินใจจัดงานแต่งงานที่ไหนดูรีวิวให้ชัดเจนและเช็กประวัติคนที่รับจ้างจัดงานว่าเคยมีประวัติหลอกลวงมีประวัติไม่ดีในการจัดงานรึเปล่า
นายรณณรงค์ยังกล่าวต่ออีกว่า การรับจ้างจัดงานแต่งงานแล้วไม่จัดให้เขา มันเป็นความเสียหายทางแพ่ง แต่ถ้าเกิดขึ้นและผู้เสียหายเยอะแบบนี้ แสดงว่าเจตนาที่มีการจัดงานแต่งงานรับมัดจำหรือรับเงินไว้แล้วตั้งแต่ต้น อาจจะไม่ตั้งใจให้มีการจัดงานจริง เพราะงั้นอาจจะเป็นความผิดเรื่องของฉ้อโกงได้ และถ้าการฉ้อโกงแบบนี้มีการนำเสนอผ่านทางเว็บสังคมออนไลน์ขึ้นเว็บไซต์ อาจจะเป็นความผิดของการฉ้อโกงประชาชนที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ 14 อนุหนึ่งนำเข้าข้อมูลเท็จด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายที่เดินทางมาร้องเรียนวันนี้ได้แจ้งความไว้หมดแล้ว