MGR Online - รอง ผบ.ตร.นำทีมแถลงผลงานตำรวจ ปส.กวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดจับกุมผู้ต้องหา 11 ราย ยึดของกลางไอซ์ 500 กก. ยาบ้าเกือบ 1.7 ล้านเม็ด
วันนี้ (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ชํวย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรวม 6 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้รวมจำนวน 11 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ 500 กิโลกรัม ยาบ้า 1,798,000 เม็ด โคเคน 1.5 กิโลกรัม เคตามีน 1 กิโลกรัม ยาอี 200 เม็ด และรถยนต์ 1 คัน
โดยพล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า สำหรับผลปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการยาเสพติดส่งท้ายปีเก่าครั้งนี้มีคดีที่น่าสนใจ คือการจับกุมขบวนยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน หลังพบมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสียงติดจากพื้นที่ภาคอีสาน ผ่านพื้นที่ตอนกลางลงไปยังภาคใต้ เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยจากแนวทางสืบสวนทราบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการลักลอบขนยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งจะพยามซุกซ่อนยาเสพติดหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการซุกซ่อนไปกับเครื่องยนต์ เครื่องออกกำลังกาย ลำโพง และสินค้าต่างๆมากมาย แล้วจัดส่งให้กับลูกค้าโดยใช้บริษัทขนส่งสินค้าเอกชนในการลำเลียงไปยังจุดหมายปลายทาง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ
กระทั่งในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ขบวนการดังกล่าวจะมีการลักลอบขนยาอีกครั้ง โดยใช้วิธีซุกซ่อนไปกับตู้โทรศัพท์ที่สั่งซื้อมาจากโรงงานแล้วนำมาดัดแปลงเอาอุปกรณ์ภายในออกเพื่อใช้สำหรับการซุกซ่อนยาเสพติด ก่อนส่งไปยังจุดหมายปลายทาง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์จนสามารถตรวจยึดของกลางยาเสพติดได้ดังกล่าว จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลไปถึงตัวผู้ที่เกี่ยวข้องจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 6 คน คือ
นายยุทธศักดิ์ สิหาบัณฑิต อายุ 33 ปี นายมาโนช แวํนทองคา อายุ 26 ปี นายการูมี สูลง อายุ 22 ปี นายมูหัมมัตนาสรี อาแซ อายุ 43 ปี นายรุสลัน อาแวหะมะ อายุ 43 ปี และนายซอบรี เปาะอาเดะ อายุ 26 ปี พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 และ 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต “ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม หลังชุดสืบสวนขยายผลจับผู้ต้องหา ทีมลำเลียงยาเสพติดได้ 6 คน โดยทั้งหมดจะลำเลียงยาสงเสพติดจากภาคอีสาน ผ่านพื้นที่ภาคกลาง ลงไปสู่ภาคใต้ เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ 3 โดยครั้งนี้ตำรวจเฝ้าพฤติกรรมของกลุ่มจนพบว่า มีการนำยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านชายแดนภาคอีสานทางฝั่งแม่น้ำโขง
และนำยามาพักไว้ที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมกับบรรจุลงในตู้โทรศัพท์ โดยว่าจ้างไปยังบริษัทรับฝากพัสดุเอกชนแห่งหนึ่ง ให้นำสินค้าไปส่งที่จังหวัดนราธิวาส ตำรวจจึงเฝ้าติดตามจนถึงปลายทาง พบว่า ผู้ต้องหานำสินค้าทั้งหมดไปเก็บไว้ในบ้านพักหลังหนี่งเพื่อส่งต่อให้กับเครือข่ายเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม เมื่อตรวจสอบของกลางพบตู้โทรศัพท์ 154 เครื่อง ด้านในมีทั้ง ไอซ์ 500 กิโลกรัม
ทั้งนี้ พบว่าเครือข่ายนี้เคยส่งตู้โทรศัพท์ที่ซ่อนไอซ์ 160 กิโลกรัม ไปที่ไต้หวันมาแล้วครั้งหนึ่ง ตำรวจจึงเก็บข้อมูลไว้และประสานกับทางการไต้หวัน จนนำมาสู่การขยายผลจับผู้ต้องหา และยึดของกลางในครั้งนี้ได้อีกครั้ง
ด้านพล.ต.อ.มนู กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายนี้พบว่า เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ต้องหาอาศัยช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการขนส่งพัสดุเป็นจำนวนมาก ในการลำเลียงยาเสพติดโดยซุกซ่อนไปในสิ่งของต่างๆ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้สั่งการแล้ว