MGR Online -“รมว.ยุติธรรม” เปิดงานอบรมหลักสูตรงานสืบสวน ขยายผลยึดทรัพย์คดียาเสพติด นำเครื่องมือสมัยใหม่สอบเส้นทางการเงินตัดวงจรเครือข่าย ลดการต่อสู้เผชิญหน้าแบบในอดีต
วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลา 08.30 น. ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เป็นประธานในพิธีจัดอบรมหลักสูตร “การเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด” โดยมี พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร., พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส., นายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมอบรม
ทั้งนี้ หลักสูตรครอบคลุมตั้งแต่การสืบสวนคดียาเสพติดโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องมือพิเศษ การขยายผลทางการเงิน ไปจนถึงการพิจารณาหลักฐานในชั้นพนักงานอัยการ ตามนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดแนวใหม่ที่มุ่งเน้นการดำเนินคดีกับนายทุนหรือผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายการค้ายาเสพติด
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาที่รัฐบาลแก้ไขมาอย่างยาวนาน และโลกปัจจุบันเข้าสู่ยุคดิจิทัลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตและมีนวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้อาชญากรรมมีรูปแบบทางดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยมากขึ้น รวมทั้งการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีการซื้อขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งยาเสพติดเป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการยึดทรัพย์ทลายเครือข่ายให้หมดไป วันนี้รูปแบบการป้องกันและปราบปรามได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากเดิมตั้งด่านจับกุมหรือหากมีการเคลื่อนย้ายยาเสพติดก็ตามจับมาดำเนินคดี
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า รูปแบบของคดีต่างๆ ในอดีตเราจับคนขนยาได้แต่ก็ไม่ได้ขยายผลถึงตัวผู้บงการ ในปีหนึ่งๆ สามารถยึดของกลางและเงินสดได้ประมาณไม่เกิน 600 ล้านบาท ถ้าเป็นบริษัทเอกชนต้องบอกว่าล้มละลายไปแล้ว หากดูจากงบบูรณาการปราบปรามยาเสพติดประมาณ 6,000 ล้านบาท แต่ยึดทรัพย์ได้แค่ 600 ล้านบาท โดยเคยจับยาบ้าได้มากสุดประมาณ 600 ล้านเม็ด ไอซ์ประมาณ 17,000 กิโลกรัม แต่ยาเสพติดที่ออกมาจากสามเหลี่ยมทองคำมีมากกว่านั้นหลายเท่า จึงต้องเน้นการตัดวงจรและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด
“การตัดวงจร ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด เป็นกระบวนการที่ยุ่งยากพอสมควร เพราะเกี่ยวกับกฎหมายหลายฉบับ ทั้งกฎหมายของ ป.ป.ส., ปปง. และภาษี ผมในฐานะ รมว.ยุติธรรม ได้เสนอแก้กฎหมายซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ หากเราแก้ได้สำเร็จ การทำสำนวนหรือคดีต่างๆ จะทำให้เป็นการบูรณาการแบบวันสต็อปเซอร์วิส มากขึ้น การตัดวงจรยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดตรงนี้ ผมมีความตั้งใจอย่างยิ่ง ผมขอให้พวกเราตั้งใจและช่วยกัน ผมมั่นใจว่าการต่อสู้กับการตัดวงจรยาเสพติดนั้นจะถูกจัดการโดยพวกเรา ซึ่งการอบรมแบบนี้คงต้องขยายไปให้ทั่วทุกภูมิภาค และผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่มีใครพลาดพลั้ง เพราะที่ผ่านมาการปราบปรามยาเสพติดจะเกิดการต่อสู้ แต่รูปแบบใหม่เราจะเน้นหลักไปที่การสืบสวนเพื่อยึดทรัพย์แทน ผมมั่นใจว่าการตัดวงจร ยึดทรัพย์เครือข่ายจะช่วยทำให้ปัญหายาเสพติดลดลงอย่างแน่นอน” นายสมศักดิ์กล่าว