ป่าไม้บุกยึดซากเสือดำ-เสือโคร่ง โชว์หราในโรงแรมหรูกลางกรุง!

MGR Online - เหยี่ยวดง-พญาเสือ ร่วมกับตำรวจป่าไม้สนธิกำลังบุกยึดซากเสือโคร่ง-เสือดำ ในโรงแรมหรูย่านสุขุมวิทของชาวไต้หวัน พร้อมยึดซากสัตว์สงวนของกลางมูลค่า 5 แสนบาท

วันนี้ (24 ธ.ค.) นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า สั่งการให้ นายถิรเดช ปาละสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าชุดเหยี่ยวดง สนธิกำลัง ชุดพญาเสือ และตำรวจ บก.ปทส. นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.260/2563 ลงวันที่ 23 ธ.ค. 63 เข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมาก

ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่ มี น.ส.ระวีวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้จัดการโรงแรมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น ก่อนทำการตรวจค้นบริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นร้านอาหาร และร้านกาแฟ พบว่า มีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น ซากกระดองเต่านา ซากกระดองเต่ากระ เป็นต้น นอกจากนี้ ในส่วนอื่นๆ ในโรงแรมยังพบซากสัตว์ป่าสายพันธุ์ไทยและต่างประเทศ เช่น เสือดำ เสือโคร่ง เสือลายเมฆ และเต่าหา รวมทั้งหมด 34 ซาก จึงได้ตรวจยึดไว้

อย่างไรก็ตาม ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบถึงชั้นที่ 4 น.ส.ระวีวรรณ ก็ได้อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่เผลอหลบหนีออกจากโรงแรมไปได้ จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ระวีวรรณ มีชื่อเป็นคณะกรรมการลงชื่อผูกพันของโรงแรมดังกล่าว ซึ่งมีทั้งหมด 2 คน โดยได้ขอประกอบกิจการโรงแรมและภัตตาคาร

นายถิรเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งผ่านเพจ “สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362” ว่า โรงแรมดังกล่าวมีการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมาก จึงดำเนินการตรวจสอบ ในเบื้องต้นพบซากสัตว์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของโรงแรมชาวไต้หวัน โดยผู้จัดการโรงแรมอ้างว่า เจ้าของโรงแรมซื้อซากสัตว์มาสะสมและประดับตกแต่งโรงแรมเท่านั้น ไม่ใช่ขบวนการล่าหรือค้าซากสัตว์ป่า แต่ขณะนี้เจ้าของโรงแรมเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่สามารถแสดงหลักฐานการครอบครองได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบลักษณะซากสัตว์มีร่องรอยกระสุนปืนบนผิวหนังคล้ายการถูกล่า และยังมีซากสัตว์ทะเลหายาก ทั้ง ซากเต่ากระ เต่านา เต่าหญ้า เต่าตนุ ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์มาก โดยมูลค่าของกลางทั้งหมดมีกว่า 500,000 บาท หากมีซื้อขายกันในตลาดมืด

เบื้องต้นเจ้าของโรงแรมมีตามความ ผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหลังจากนี้ จะส่งตำรวจ บก.ปทส.สอบเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อออกหมายเรียกเจ้าของซากสัตว์ป่ามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปทส. ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยเฉพาะประเด็นที่ในขณะตรวจค้นทาง น.ส.ระวีวรรณ ผู้จัดการโรงแรมได้หลบหนีไป อีกทั้งจะดำเนินการสืบสวนหาตัวเจ้าของโรงแรม ซึ่งเป็นเจ้าของซากสัตว์ป่าตามที่ผู้จัดการโรงแรมกล่าวอ้าง

ในส่วนของกลางซากสัตว์ป่าที่พบ อาทิ ซากกระดองเต่านา ซากกระดองเต่ากระ เสือโคร่ง เสือดำ ขณะนี้อยู่ในความดูแลของกลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งจะทำการตรวจสอบหาพันธุกรรมของซากสัตว์ป่าที่พบว่ามีที่มาอย่างไร รวมทั้งร่องรอยว่ามีการถูกล่าหรือทำร้ายหรือไม่ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี โดยทางคดีได้ให้ทางพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. เป็นผู้รับผิดชอบ