xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์” แจง “เต้น” ติดกำไล EM ห้ามออกนอกเขตนนทบุรี 3 เดือน 11 วัน งดยุ่งการเมือง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รมว.ยธ.เผยพักโทษ “ณัฐวุฒิ”  ตาม พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ โดยต้องคุมประเพฤติติดกำไล EM เป็นเวลา 3 เดือน 11 วัน ห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง ปราศรัย ออกสื่อ ห้ามออกนอกเขตนนทบุรี  เล็งพิจารณาติด EM อีก 1.6 หมื่นคน ผู้เหลือโทษไม่ถึง 5 ปี ลดแออัด ย้ำ 7 กลุ่มคดีร้ายแรง ไม่ลดโทษ สร้างความมั่นใจให้สังคม

วันนี้ (19 ธ.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวถึงกรณีการพักโทษ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช.ว่า กรณีของนายณัฐวุฒิเป็นการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ และได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ตาม พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ซึ่งมีการพิจารณาคุณสมบัติผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์โดยคณะอนุกรรมการ ซึ่งกรณีของ นายณัฐวุฒิ มีเงื่อนไขการคุมประพฤติ คือ ระยะเวลาคุมประพฤติตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2563 - 29 มี.ค. 2564 ติดกำไล EM รวม 3 เดือน 11 วัน และต้องรายงานตัวกับ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนนทบุรี เดือนละ 1 ครั้ง ต้องเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรที่กรมคุมประพฤติกำหนด ภายในระยะเวลาติดกำไล EM ห้ามยุ่งเกี่ยวหรือมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางการเมืองใดๆ เช่น ห้ามให้สัมภาษณ์ ปราศรัย ออกสื่อ หรือแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และมีพนักงานคุมประพฤติออกสอดส่องติดตามในระยะเวลาคุมประพฤติ อย่างน้อย 1 ครั้ง ห้ามออกนอกเขต จ.นนทบุรี เว้นแต่มีธุระสำคัญเป็นครั้งคราวให้ขออนุญาตพนักงานคุมประพฤติและได้รับอนุญาตก่อนจึงจะออกนอกเขตพื้นที่ได้ และห้ามออกนอกราชอาณาจักร

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนายณัฐวุฒิแล้ว ยังมีผู้ต้องขังที่ได้รับความเห็นชอบพักการลงโทษอีก 76 ราย ซึ่งทุกคนจะต้องปฏิบัติตามระเบียบและเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ซึ่งการได้รับการพระราชทานอภัยโทษมีผู้ต้องขังที่ได้รับสิทธิแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มผู้ที่ได้รับการลดโทษแล้วครบกำหนดโทษจะได้รับการปล่อยตัวเลย กลุ่มที่สอง คือ ผู้ที่ได้รับการลดโทษแล้วโทษเหลือไม่ถึง 1 ปี จะได้รับการพักโทษโดยการติดกำไล EM และ กลุ่มที่สาม ผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังมาแล้ว 1 ใน 3 ลดโทษแล้วเหลือเกิน 1 ปี แต่ไม่ถึง 5 ปีซึ่งมีอยู่ประมาณ 16,000 คน ตรงนี้จะมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะสามารถนำมาติดกำไล EM เพื่อพักโทษได้หรือไม่ ซึ่งต้องทำให้เสร็จภายใน 3 เดือน จะเป็นการลดความแออัดภายในเรือนจำได้ ตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม

“สังคมไม่ต้องวิตกกังวลผู้ที่พ้นโทษจากการพระราชทานอภัยโทษและพักโทษ ผู้ต้องขังเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับคดีร้ายแรง 7 ประเภท คือ ฆ่าข่มขืนเด็ก ฆ่าข่มขืน ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิต สังหารหมู่ ปล้นฆ่าชิงทรัพย์และนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการลดโทษ และหากผู้ต้องขังกลุ่มนี้พ้นโทษจะมีระบบการติดตามโดยศูนย์ JSOC และเมื่อสังคมรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน จะช่วยส่งข่าวให้รับรู้และจะทำให้เกิดการระวังตัวทำให้ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก ซึ่งผู้ที่ได้รับการลดโทษและพักโทษนั้นจะเป็นผู้ต้องขังคดีไม่ร้ายแรงและมีความประพฤติดี ตามการพิจารณาอย่างเข้มงวดของคณะกรรมการฯเท่านั้น” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ


กำลังโหลดความคิดเห็น