“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ตอน “เจ๊หน่อย” สร้างรังใหม่ บินเดี่ยวเตรียมผงาด
สภาพอาการเลือดไหลของพรรคเพื่อไทยรอบนี้ต้องยอมรับว่าหนักจริงๆ ถึงขั้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าของพรรคตัวจริง ทวิตเตอร์รัวๆ ว่าไม่เสียใจที่วันนี้หลายคนตัดสินใจทิ้งพรรคเพื่อไทย และยังเชื่อว่า พรรคจะสามารถกลับมาประสบความสำเร็จได้แบบในอดีตพรรคไทยรักไทย
ในจังหวะทีทักษิณออกมา เป็นช็อตที่คาบเกี่ยวจากกรณีที่นักการเมืองหลายคนทยอยกันไขก๊อกทิ้งพรรคเพื่อไทย เบอร์ใหญ่สุดคือ เจ๊หน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มีปัญหาเพราะถูกลดบทบาทในพรรค ไม่ใช่แค่งอนให้ง้อ แต่ออกไปจริง
ความเคลื่อนไหว เจ๊หน่อย และบรรดานักการเมือง ที่วันนี้เป็นแค่อดีตกับพรรคเพื่อไทย จะออกไปตั้งพรรคใหม่ มีโมเดลเดียวกับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง โดยจะไปรวบรวมนักการเมือง อดีต ส.ส.ที่แยกตัวออกจากพรรคไปก่อนหน้านี้ มาสร้างบ้านหลังใหม่
ปัจจุบัน พรรคเสี่ยอ๋อย จาตุรนต์คืบหน้าไปแล้วกว่ามาก ใกล้กำหนดมาในโลกการเมืองแล้ว มีการจดแจ้งตั้งพรรคการเมืองไว้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียบร้อย อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะใช้ชื่อพรรคว่าอะไร โดยเตรียมจะเปิดตัวช่วงหลังปีใหม่ 2564 ขณะนี้กำลังทยอยตั้งสาขาพรรคทั่วประเทศ
ทีมงานที่จะตามไปสร้างบ้านใหม่กับ จาตุรนต์ เป็นพวกนักการเมืองหน้าเก่าที่เคยรุ่งเรืองกันมาสมัยอยู่พรรคไทยรักไทย และต้องสลายหายตัวกันไปตอนยุบพรรคไทยรักษาชาติ ไม่ว่าจะเป็น ประภัสร์ จงสงวน , รุ่งเรือง พิทยศิริ รวมไปถึง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ขณะนี้กำลังนับถอยหลังรอวันพ้นโทษ
ขณะที่ เจ๊หน่อย คงไม่ไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับ จาตุรนต์ แต่จะตั้งพรรคใหม่ในทรงเดียวกัน โดยจะชักชวนเอานักการเมือง และอดีต ส.ส.ที่ขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย มาอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยในเรื่อง เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
จะเห็นว่า แม้เจ๊หน่อยจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยโดยบริบูรณ์แล้ว แต่ เจ๊หน่อย ยังคงไปช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย หาเสียงในหลายจังหวัดภาคอีสานและภาคเหนือ
การออกไปทำพื้นที่อีสานและเหนือ เป็นตัวบ่งชี้ว่า พรรคใหม่ที่ เจ๊หน่อย จะสร้างทำขึ้น จะไม่ใช่พรรค กทม. แต่เป็นพรรคการเมืองที่หวังผลทั่วประเทศ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เคยเลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย
โมเดล เจ๊หน่อย และ เสี่ยอ๋อย ไม่ใช่ยุทธการแตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อย เหมือนที่ทำกันมาสมัยตั้งพรรคไทยรักษาชาติ เพราะพรรคดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ แค่แก้เกมระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม เท่านั้น
ในขณะที่ เจ๊หน่อย นั้น แยกตัวออกมาเพราะขัดแย้งกับบรรดาแกนนำคนอื่นๆ ทั้ง เสี่ยอ้วน ภูมิธรรม เวชชยชัย และ หมอมิ้ง พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช
นอกจากนี้ เจ้าแม่วังทองหลาง ยังน้อยใจ ทักษิณ ที่เลือกใช้บริการบุคคลข้างต้นให้มากุมอำนาจในพรรค แล้วลดบทบาทตัวเอง จนเหมือนแทบจะไม่มีตัวตน ไม่มีอะไรทำ
เรียกว่า เป็นการจากลาที่ไม่สวย แต่ก็ไม่ใช่ออกมาเพื่อจะแยกทางหรือหาทางบินเดี่ยว ในยามที่เห็นว่าพรรคไม่มีทางเป็นรัฐบาลได้
แต่ด้วยสไตล์การเมืองแบบ เจ๊หน่อย แม้จะแยกตัวไปเป็นเอกเทศ และแม้ไม่ใช่พรรคเครือข่ายที่แยกมาจากพรรคเพื่อไทย แต่หากมีการเลือกตั้งหรือจัดตั้งรัฐบาล ย่อมสามารถจับมือกันได้อยู่ เพราะเป็นเนื้อเดียวกันมาก่อน
การไปตั้งพรรคเอง ยังเป็นการตัดปัญหาเรื่องคน เพราะในพรรคเพื่อไทยนั้น ต้องยอมรับว่า มีคนจ้องเล่นงานมากกว่าคนรักเจ๊ ดังนั้น ต่อไปก็ไม่ต้องมานั่งอึดอัด หรือถูกปล่อยข่าวเลื่อยขาเก้าอี้อีก
คุณหญิงสุดารัตน์จะไปทอแสงในที่ๆ ของตัวเอง และหากการเลือกตั้งครั้งหน้ายังใช้ระบบจัดสรรปันส่วนผสม รวมถึงได้ ส.ส.ในมือพอสมควร ก็มีอำนาจต่อรอง แม้จะไม่ใช่พรรคใหญ่ก็ตาม
แต่เจ๊หน่อยจะถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปร ที่หากจับผลัดจับผลูพรรคเพื่อไทยได้คัมแบ็ก หรือฝั่งนี้กลับไปมีอำนาจ ชื่อ สุดารัตน์ ย่อมมีราคาในกาลข้างหน้า
วันนี้พรรคสุดารัตน์ที่ยังไม่เปิดตัว ส่วนหนึ่งเพราะกำลังรวบรวมระดมพล และไม่มีความจำเป็นต้องรีบเร่งอะไรเพราะยังมีเวลาเหลืออีกมาก
ขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง วันนี้แม้เลือดจะไหลออกไปเยอะ แต่ก็เป็นนักการเมือง ที่เป็นอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. ไม่ได้มีบทบาทอะไรในพรรคเท่าไหร่ ยังไม่ส่งผลกระทบ
ส.ส.ยังอยู่ครบไม่มีใครย้ายพรรค ส่วนหนึ่งเพราะรัฐธรรมนูญปัจจุบันมันไม่ค่อยเอื้อให้ย้ายค่ายได้ง่าย นอกเสียจากถูกตะเพิดออกจากพรรค ถึงจะเข้าไปอยู่สังกัดใหม่ได้
ส.ส.คนไหนจะไป หรือไม่ไป ต้องดูตอนยุบสภาเลือกตั้ง ตอนนั้นถึงจะรู้ว่า เหลืออยู่กี่คน ตอนนี้ก็ทนๆ ฝืนๆ ไปก่อน เพราะไม่มีทางเลือก
แต่ดูทรงแล้ว พวก ส.ส.นกแลไม่กล้าทิ้งพรรค เพราะต้องยอมรับว่า แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่ที่ภาคเหนือและอีสานชื่อของ ทักษิณ ชินวัตร ยังพอขายได้ ใครที่อยากเป็น ส.ส.ก็ต้องอิงยี่ห้อนี้ไว้ก่อน
ยกเว้นพวกมีทุน มีกำลัง ก็อาจจะออกไปอยู่กับพรรคใหม่ๆ ที่พรรคพวกแยกตัวออกไป
พรรคเพื่อไทยขณะนี้ ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากประคองตัวเองไปวันๆ ปล่อยให้ ภูมิธรรม และ พรหมมินทร์ ตลอดจนคนของคุณหญิงอ้อ พจมาน ณ ป้อมเพชร บริหารงานไปพลางๆ ก่อน
เพราะก็ทำอะไรไม่ได้มาก กระแสพรรคไม่ได้ดีเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากมีน้องใหม่มาแรงอย่างพรรคก้าวไกล หายใจรดต้นคออยู่ และมีพรรคภูมิใจไทย ที่จ้องจะขึ้นมาเป็นใหญ่แทนในขั้วนี้
