MGR Online - ตำรวจป่าไม้บุกรวบ 3 คนงานลักลอบกรีดยางพาราในพื้นที่ป่าสงวนแควระบม-ป่าสียัด เตรียมขยายผลจับนายทุนที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (10 พ.ย.) พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. สั่งการ พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.2 บก.ปทส. พ.ต.ท.เอกศิษฏ์ โตอดิเทพย์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ปทส. พ.ต.ท.ปวารณ์ ดาลจาวัล สว.กก.2 บก.ปทส. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.6 (ท่าเต็นท์) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.4 (เขาฉกรรจ์), เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ร้อย ตชด.127 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สระแก้ว เข้าตรวจสอบที่ดินบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม และป่าสียัด ท้องที่หมู่ 9 (บ้านท่าเต้น) ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการบุกรุกป่าโดยแผ้วถางเพื่อทำสวนยางพารา ก่อนจับกุม นายวัชระพงษ์ หงส์เอก อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 บ้านท่าเต็นท์ ม.9 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว นายเฮียง เอม และ นายยิน ซาย สองคนงานสัญชาติกัมพูชา พร้อมอุปกรณ์ตัดยางพาราจำนวนมาก
พ.ต.อ.อนรรฆ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับมอบนโยบายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งรัดปราบปรามดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่บุกรุกป่าไม้ โดยให้สืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการโดยเฉพาะผู้ที่เป็นนายทุน หรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังการกระทำผิดเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ กระทั่งสืบทราบว่ามีกลุ่มบุคคลฉวยโอกาสกลับเข้ามาบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว ที่เดิมพื้นที่ป่าดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ตรวจยึดไว้แล้วกว่า 1,000 ไร่ เมื่อปี 58 แต่ปัจจุบันพบว่ามีการแผ้วถางเพื่อปลูกต้นยางพารา ซึ่งต้นยางพารามีอายุจนสามารถกรีดเอาน้ำยางได้ไปจำหน่าย ได้แล้ว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธที่จะซัดทอดว่านายทุนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งแจ้งข้อหานายเฮียง เอ็ม เพิ่มเติมในฐานความผิดเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจยึดของกลางซึ่งเป็นช้อนรองน้ำยางอีก 8 หมื่นชิ้น รวมทั้งจะขยายผลหาผู้กระทำผิดซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างหรือเป็นนายทุน ให้กลุ่มบุคคลซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่หรือเป็นบุคคลต่างด้าว ซึ่งสามารถว่าจ้างในราคาถูกเข้ามาหาผลประโยชน์ในพื้นที่ตรวจยึดต่อไป