xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ยื้อแก้ รธน. ส่งศาล รธน. เข้าทางม็อบ 3 นิ้วไล่ "บิ๊กตู่"

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 10 พศจิกายน 2563 ตอน ยื้อแก้ รธน. ส่งศาล รธน. เข้าทางม็อบ 3 นิ้วไล่ "บิ๊กตู่"



เกมการสู้กันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากเดิมที่คิดว่าจบแล้ว คงมีการยอมแก้มาตรา 256 ให้มีการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อกลบกระแสม็อบ มาถึงเวลานี้เริ่มชักไม่แน่ เสียแล้ว เพราะฝ่ายหนึ่งรุกให้แก้ อีกฝ่ายหนึ่งก็ตั้งรับแบบมีตอบโต้ จนถูกมองว่า เล่นแผนยื้อจนถึงที่สุด โดยใช้ทุกช่องทางที่ทำได้

ศึกแก้รัฐธรรมนูญ จึงยังต้องสู้อีกหลายยก กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ

จากเดิมที่คิดกันว่า หลังกระแสม็อบสามนิ้ว ร้อนแรง และลุกลาม

จนน่าทำให้ แรงต้านจากสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 256 ให้มี ส.ส.ร. อาจเปลี่ยนแปลงไป จนยอมโหวตให้มีการตั้ง ส.ส.ร.ได้ เพื่อลดกระแสม็อบ

แต่สถานการณ์ที่เห็นเฉพาะหน้า ในช่วงหนึ่งสัปดาห์สุดท้าย ก่อนถึงวันประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่17-18 พ. ย. นี้เพื่อโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีคิวจะมีการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างเดิม หกฉบับและร่างฉบับประชาชนที่เรียกกันว่า ร่างไอลอว์ เริ่มเห็นทีท่าว่า ยังมีความพยายาม จะดึงเรื่องซื้อเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปอีก

หลังจากที่ ส.ว.จำนวน 48 คน จับมือ ร่วมกับ ส.ส.พลังประชารัฐ 25 คน รวมเป็น 73 คน ร่วมกันลงชื่อเสนอญัตติให้นำเรื่องเข้าหารือระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 17-18 พ.ย. เพื่อให้ที่ประชุมได้ร่วมกันอภิปรายแสดงความเห็นและลงมติว่าจะให้ที่ประชุมรัฐสภา เห็นชอบให้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า

กระบวนการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้มีการตั้งสภาร่างรธน.มาร่าง รธน.เฉพาะใหม่ทั้งฉบับ สามารถทำได้หรือไม่ เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสมัยปี 2556 ที่เคยวินิจฉัยว่าหากจะมีการแก้ไข รธน. เพื่อร่าง รธน.ฉบับใหม่ จะต้องไปทำ ประชามติ ถามความเห็นประชาชนก่อน จะมีการแก้ไขได้

เส้นทางต่อจากนี้จะเป็นไปอย่างไร? เมื่อญัตติดังกล่าว ยื่นถึงชวน หลีกภัยไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ต้องดูว่า ประธานรัฐสภา จะว่าอย่างไร ซึ่งน่าจะต้องบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาสัปดาห์หน้า ตามขั้นตอน เว้นแต่ญัตติดังกล่าวทำไม่ได้ ก็อาจจะไม่บรรจุให้

ผ่านสเต็ปแรกมา ก็มาถึงสเต็ปที่สอง ที่ให้จับตาการประชุมรัฐสภาสัปดาห์หน้า ว่า จะมีการวางหมากเล่นเกมกันอย่างไรกลางห้องประชุมรัฐสภา จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์หรือไม่ เพราะดูรูปการแล้ว อาจมีอะไรพลิกแพลง มีการวางหมากหลายชั้นในเรื่องนี้ แบบใครคาดไม่ถึง

อย่างไรก็ตาม ต้องได้เห็นแน่ คือ ส.ว.บางคนที่อยู่ในกลุ่มเสนอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ จะลุกขึ้นอภิปรายขู่หนักๆไปถึง ส.ว.และ ส.ส.ว่า หากไปโหวตเห็นชอบ ร่างแก้ไข รธน.มาตรา 256 จนผ่านวาระแรกที่เป็นการโหวตแบบเปิดเผยขานชื่อรายบุคคล

แล้วต่อมา มีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จนศาลตัดสินว่าการแก้ 256 ให้ตั้งส.ส.ร.ทำไม่ได้ เป็นการขัดรธน. ดังนั้นใครที่โหวตเห็นชอบ อาจโดนเอาผิด ฐานกระทำสิ่งที่ขัด รธน. อาจจะโดนยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งได้

หากมีการขู่แบบนี้ ไม่แน่ ส.ส.โดยเฉพาะส.ส.รัฐบาลและ ส.ว. ไม่กล้าลงมติเห็นชอบ จนใช้วิธีเช่น งดออกเสียง เพื่อเซฟตัวเอง จนสุดท้าย เสียง ส.ว. ไม่ถึง 84 เสียง ร่างแก้ไข 256 ทุกร่างรวมถึงของไอลอว์ ก็ตกหมด

แต่อีกมุมหนึ่ง ถ้า ส.ส.และ ส.ว.บางส่วน เชื่อมั่นว่า การแก้ 256 ดังกล่าว ทำได้ไม่ขัด รธน. เสียงโหวตเห็นชอบ วาระแรก เสียง ส.ว. ก็อาจถึง 84 เสียง

และไม่แน่อีกเช่นกัน เสียงส่วนใหญ่ ในส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ว. ก็อาจลงมติ ไม่เห็นด้วยกับการส่งเรื่องให้ศาล รธน.วินิจฉัยก็ได้

หากออกมาสูตรนี้ ก็ทำให้ ความพยายามส่งเรื่องให้ศาลรธน.ตัดสิน ตามความต้องการของ ส.ว.บางกลุ่ม ตามช่องทางนี้ ก็แท้งกลางที่ประชุม จนสุดท้าย กระบวนการแก้ไข รธน. และการตั้ง ส.ส.ร. ก็อาจเกิดขึ้น เว้นแต่ ส.ว.ในกลุ่มดังกล่าว ยังไม่ยอมแพ้ ก็อาจไปใช้ช่องทางอื่นต่อไป

ร่องรอยความพยายามยื้อแก้ไขรธน. ซึ่งตกเป็นเป้าการเมืองในวันนี้ จึงทำให้มีแนวโน้มที่ จะปลุกให้ม็อบสามนิ้ว กลับมาโหมโรงเคลื่อนไหวประเด็นเรื่อง การแก้ไข รธน.อีกรอบ และมีความเป็นไปได้ว่า ม็อบสามนิ้ว จะมีการนัดรวมตัวกัน ที่หน้ารัฐสภาช่วงสัปดาห์หน้า

เป็นการไปร่วมติดตามฟังผลการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของ ส.ส.และ ส.ว.จนเป็นการกดดัน การลงมติไปในตัว งานนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงโดนโจมตีอย่างหนักอีกระลอก

เพราะเคยให้คำมั่นสัญญาสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยตามข้อเรียกร้องของสังคม แต่ความจริงกลับสวนทางกัน ที่มี ส.ส.รัฐบาลกับ ส.ว.บางกลุ่ม ยื่นให้ศาล รธน ตีความ ถูกวิจารณ์ว่า เล่นเกมยื้อเตะถ่วงไปเรื่อยๆ ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ คงหนีความรับผิดชอบตรงนี้ ปัดไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้

สถานการณ์ต่อจากนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ จนน่าเป็นห่วงว่าเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง จะขยายตัวและความรุนแรงลุกลาม บานปลายออกไป จนกู่ไม่กลับ ก็เป็นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น