ส.ส.เมืองคอน ปชป. เผย พรรคมีมติโหวตสวนญัตติยื่นศาล รธน.ตีความร่างแก้ไข รธน. ในสภา แนะ 25 ส.ส.พปชร.ถอนชื่อจากญัตติให้ศาล รธน.ตีความ ยกคำพังเพย “หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานมาสอด”
วันนี้ (10 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ้กส่วนตัว ใจความว่า ระหว่างนั่งประชุม ส.ส.ของพรรค ได้มีโอกาสอ่านข่าวจากสื่อโซเชียล พบว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณี ส.ว.และ ส.ส. ลงชื่อยื่นตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ที่ถูกมองเป็นการยื้อเวลา ว่า เรื่องนี้ไม่ขอไปก้าวล่วงกระบวนการ เพราะเป็นดุลพินิจของสมาชิกรัฐสภา ตนไปสั่งใครไม่ได้ ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง มีความรู้ มีประสบการณ์ และเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ซึ่งเป็นวิถีทางการเมือง ดังนั้น เป็นเรื่องที่ต้องเคารพกระบวนการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา”
ซึ่งเป็นการพูดตามหลักการที่สมาชิกรัฐสภาทุกย่อมมีอิสระ ไม่ตกอยู่ในอาณัติใดๆ แต่ในทางปฎิบัติผมเชื่อว่า ท่าทีการแสดงออกของ พลเอก ประยุทธ์ ย่อมมีผลด่อการตัดสินใจของสมาชิกวุฒิสภา และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้อย่างแน่นอน น่าเสียดายที่การแสดงจุดยืนของ พลเอก ประยุทธ์ ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่มีการอภิปรายตามมาตรา 165 ว่า พร้อมสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ กลับไม่เป็นที่นำพาของสมาชิกวุฒิสภา และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เลย
ส่วนตัวขอชื่นชมการตัดสินใจ และสนับสนุนท่าทีของ พลเอก ประยุทธ์ ในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเมื่อญัตติการขอตีความญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้มีการยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภา ซึ่งฝ่ายกฎหมายรัฐสภาจะต้องพิจารณาถึงความถูกต้องและสมบูรณ์ของญัตติ ต่อจากนั้น เป็นอำนาจของประธานรัฐสภาในการบรรจุวาระการประชุมรัฐสภา ถ้าหากญัตตินี้ได้รับการบรรจุเพื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาลงมติแล้ว
วันนี้ที่ประชุม ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ มีมติพรรคอย่างชัดเจน โหวตไม่รับญัตติการยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างแน่นอน ด้วยจุดยืนที่ชัดเจนในการมุ่งมั่นต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จโดยเร็วตามเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และมั่นใจว่า ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และการจัดตั้ง ส.ส.ร.ของพรรคร่วมรัฐบาล ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด จึงไม่จำเป็นต้องมีญัตติยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้ นายเทพไท ยังได้โพสต์ข้อความถึงการที่มีรายชื่อสมาชิกรัฐสภา จำนวน 72 คน ที่ได้ลงชื่อในญัตติขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น พบว่า มีรายชื่อของสมาชิกวุฒิสภา 47คน และ ส.ส.สังกัดพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 25 คน ในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 47 คน ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้สมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่ง ได้แสดงท่าทีต่อต้าน ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีธงที่ชัดเจนไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลิดรอนสิทธิ์ของสมาชิกวุฒิสภาในบางประเด็น แต่ที่แปลกใจมากที่สุด ก็คือ รายชื่อของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 25 คน ที่ได้ลงชื่อในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ฉบับของพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาลงชื่อร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา ในญัตติเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความญัตติที่ตัวเองเคยลงชื่อมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่แน่ใจว่าการลงชื่อใน 2 ญัตติที่มีความขัดแย้งกัน จะมีผลประการใดหรือไม่
แต่เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงใจในฐานะสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล จึงอยากให้เพื่อน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้พิจารณาถอนชื่อออกจากญัตติฉบับยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความออกไปก่อน เพราะญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และการจัดตั้ง ส.ส.ร.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ จากฝ่ายกฎหมายและวิปรัฐบาลแล้วว่า ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแต่ประการใด จึงไม่มีเหตุผลใดต้องมาลงชื่อในญัตติร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก
อยากให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนได้แสดงจุดยืนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับคำประกาศของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง เพราะถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญรับตีความตามญัตติที่ได้ยื่นแล้ว ก็อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ และอาจเป็นเงื่อนไขของกลุ่มคณะราษฎร 2563 กล่าวหารัฐบาลเล่นเกมยื้อเวลา ต่อลมหายใจให้กับรัฐบาลออกไปอีก
จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งกำลังดำเนินการไปได้ด้วยดี และไม่อยากจะให้ฝ่ายใดเข้ามาขัดขวาง เหมือนคำพังเพยที่กล่าวว่า “หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด”