MGR Online -“บิ๊กต๊ะ” เผยมีตำรวจและบิ๊กตำรวจตามดูแล แกนนำม็อบคณะราษฎรที่ รพ.พระรามเก้า ยันไม่มีนอกเครื่องแบบรุมทำร้าย ทำตามหลักสิทธิมนุษยชน เปรยตอนนี้โดนแล้ว 80 หมาย รอดำเนินคดี เตือนปล่อยข่าวใช้หมายจับหมดสภาพมีความผิด พ.ร.บ.คอมพ์
วันนี้ (31 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวถึงการดำเนินคดีกรณีรถควบคุมแกนนำคณะราษฎรได้รับความเสียหายว่า ในส่วนนี้ประชาชนคงเห็นคลิปที่ปรากฏอย่างชัดเจนอยู่แล้ว มีกลุ่มผู้ชุมนุม หรือกลุ่มผู้ไม่หวังดีกลุ่มหนึ่งพยายามทำการชิงตัวผู้ต้องหา โดยนำจักรยานยนต์มากีดขวางการเคลื่อนตัวของรถควบคุมผู้ต้องหา จนกระทั่งตำรวจต้องตัดสินใจใช้รถควบคุมผู้ต้องหาดันจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากเส้นทาง
นอกจากนี้ มีการพยายามใช้สิ่งต่างๆ เช่น หมวกกันน็อก และแท่งเหล็ก ทุบทำลายรถควบคุมผู้ต้องหาในระหว่างทาง ขณะนี้ ผกก.สน.ประชาชื่น ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ทำการตรวจร่อยรอยความเสียหายและดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบมีความผิดข้อหาทำลายทำให้เสียทรัพย์ซึ่งทรัพย์ทางราชการ และดูพฤติกรรมว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 215 ฐานสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่ยวายในบ้านเมือง หรือก่อให้เกิดเหตุร้ายในบ้านเมืองหรือไม่ ถ้าพยานหลักฐานไปถึงมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีแน่นอน
ส่วนการรักษาตัวของนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำคณะราษฎร ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ได้มีกำลังตำรวจในพื้นที่เฝ้าดูแลความเรียบร้อย และเมื่อคืนวานนี้ (30 ต.ค.) มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงไปควบคุมด้วยตัวเอง ยืนยันว่าตำรวจดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยยังมีหมายอื่นที่ต้องอายัดตัว พอเริ่มดำเนินคดีแล้วไม่สามารถหยุดได้ ฉะนั้นแล้วคดีต้องสิ้นสุดที่ศาลเท่านั้น หลังจากนี้จะมีหมายอื่นตามมาอีก ตราบใดที่ยังทำความผิดเรื่อยๆ ขณะนี้มีประมาณ 80 กว่าหมาย
ทั้งนี้ กรณีอ้างว่ามีตำรวจนอกเครื่องแบบ 5 ราย เข้าไปทำร้ายร่างกายแกนนำคณะราษฎรขณะเตรียมอายัดตัวจากหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มา สน.ประชาชื่น จากการตรวจสอบแล้วไม่มีเหตุดังกล่าว สำหรับประเด็นการเพิกถอนหมายจับเนื่องจากเจอตัวและสอบปากคำผู้ต้องหาแล้วนั้น ต้องดูรายละเอียดในแต่ละคดีระหว่างมีการอายัดตัวและแจ้งข้อกล่าวหา กับในส่วนที่ดำเนินคดีแล้ว เมื่อรับตัวแล้วต้องนำไปฝากขัง แต่ถ้ายังไม่ถึงขั้นตอนนั้นกระบวนการก็ยังไม่เสร็จสิ้น ต้องนำตัวมาสอบปากคำและดำเนินการต่างๆ
“กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ บช.น.ได้เตรียมความพร้อมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ บริเวณสนามหลวงและโดยรอบได้วางกำลัง 7 กองร้อย และจากควบคุมฝูงชน (คฝ.) หญิง 1 กองร้อย การประเมินสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้ คงต้องรอการข่าวในช่วงบ่ายอีกครั้ง” รอง ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า ฝากเตือนประชาชนกรณีปรากฏข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ เป็นการกล่าวร้ายการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ เช่น คำว่าการใช้หมายจับที่หมดสภาพ มาดำเนินการจับกุมตัวผู้ต้องหา หรือมีการใช้กำลังทุบตีผู้ต้องหา คนหนึ่งคนใดจนได้รับบาดเจ็บหมดสติ ข้อกล่าวดังกล่าวเป็นข้อความอันเป็นเท็จ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2560 มาตรา 14 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จึงขอให้ประชาชนอย่าเผยแพร่และส่งต่อ เพราะการกระทำดังกล่าวอาจได้รับโทษตามกฎหมาย
“ในภาษากฎหมายไม่มีคำว่าหมายจับหมดสภาพ หมายขาดอายุความก็คือหมายขาดอายุความ ตำรวจมีการตรวจสอบทุกหมายเรียบร้อยครบถ้วน เป็นข้อความที่ไม่ถูกต้อง หรืออาจเกิดความเข้าใจผิด รวมถึงมีการบอกว่าระหว่างควบคุมตัวมีเศษแก้วตกใส่ศีรษะ หู และร่างกาย อาจเป็นเหตุให้มีการชักชวนให้ผู้ที่เข้าใจผิดมาร่วมชุมนุมมากขึ้น ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น” รอง ผบช.น.กล่าว