MGR Online - โฆษก ตร.เตือนม็อบครั้งที่ 2 ย้ำหากพบทำผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมปรับแผนรับมือผู้ชุมนุมทุกรูปแบบ พบผู้ใช้โซเชียล 10 ราย โพสต์ชวนร่วมม็อบ ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตรียมดำเนินคดี
วันนี้ (16 ต.ค.) เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) โดย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสัตน์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงภาพรวมสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่ กทม.
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า ผลการปฏิบัติในภาพรวมที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการจับกุมผู้ต้องหา 21 ราย วันที่ 15 ต.ค. จับกุมช่วงเช้า 23 ราย ช่วงเย็น 7 ราย รวมจับกุม 30 ราย ขอทำความเข้าใจแจ้งเตือนเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเน้นย้ำว่า การรวมตัวกันเพื่อชุมนุมกันทางการเมืองด้วยอุปกรณ์ ยานพาหนะต่างๆ ที่จะนำไปสู่การชุมนุมทางการเมือง นำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงเป็นการทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และทำผิดกฎหมาย ทางตำรวจซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน ทหาร ข้าราชการพลเรือน เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายฉบับนี้ มีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
“ขอประกาศเตือนมวลชนที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ในช่วงเย็นวันนี้เป็นครั้งที่สอง โดยหลังจากนี้ จะมีการประกาศเตือนครั้งที่สาม ในเวลา 17.00 น. ซึ่งหลักการนี้ถือว่าเป็นหลักการสากลที่ใช้ในการแจ้งเตือนไม่ให้มีการชุมนุม และยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย แต่หากผู้ชุมนุมมีการปรับเปลี่ยนสถานที่ชุมนุม ตำรวจก็ได้มีแผนที่จะปรับกำลังให้สอดคล้องกับสถานการณ์ นอกจากนี้ ตำรวจยังมีอำนาจในการเข้าตรวจค้นอาคารสถานที่ต่างๆ เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุร้าย หรือเป็นสถานที่สุ่มเสี่ยงที่ขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์ร้ายแรง เช่น กรณีที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาตำรวจได้บุกตรวจค้นอาคารไทยซัมมิท ซึ่งก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายสืบสวนที่มีอำนาจในการเข้าค้น ยืนยันว่า จะไม่ทำให้เกิดความรุนแรง ส่วนรายละเอียดที่เข้าข่ายความผิด ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้” โฆษก ตร.ระบุ
พล.ต.ต.จิรสัตน์ กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ดำเนินการปิดการจราจรบริเวณโดยรอบแยกราชประสงค์แล้ว โดยได้ปิด 4 จุดหลักดังนี้ 1. แยกประตูน้ำ 2. แยกเฉลิมเผ่า 3. แยกราชดำริ 4. แยกชิดลม โดยได้ปิดการจราจรไปเมื่อเวลา 14.00 น. เราใช้เวลาในการระบายรถในพื้นที่ประมาณ 30 นาที ซึ่งอาจมีรถตกค้างอยู่บ้างในพื้นที่ที่ปิดการจราจร ฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่อยู่บริเวณโดยรอบขณะนี้มีฝนตกเล็กน้อยและฝนเริ่มตกหนักย่านฝั่งธนบุรีมีน้ำท่วมขัง 8 จุด จึงเน้นย้ำผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งเรื่องการปิดจราจรบริเวณแยกราชประสงค์ ถึงเรื่องของฝนที่อาจจะตกมาในช่วงเย็นวันนี้ ประกอบกับเป็นวันศุกร์ขอให้ประชาชนโดยรอบวางแผนเรื่องปรับเวลา เส้นทาง เลือกใช้ยานพาหนะในการเดินทาง เพื่อจะหลีกเลี่ยงผลกระทบกับปัญหาการจราจรติดขัดให้มากที่สุด
พล.ต.ต.จิรสัตน์ กล่าวว่า ส่วนผู้ที่จะมาใช้บริการห้างสรรพสินค้าที่อาจจะยังสับสน ในส่วนของห้างที่อยู่บริเวณสยาม จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากออกไปถนนพญาไท และถนนพระราม 1 ได้ ส่วนผู้ใช้บริการห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ในแนวถนนราชดำริไม่สามารถออกได้แล้ว จึงต้องใช้ถนนด้านหลังเซ็นทรัลเวิลด์มาออกวงเวียนด้านหลังพารากอน ก่อนจะออกไปยังถนนพระราม 1 ข้างๆ ห้างพารากอน หรือออกถนนพญาไท ก็จะสะดวกกว่า ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลประกอบการเดินทางได้ที่ โทร. 1197
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้รับประสานจาก นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ว่า ทางกระทรวงดีอีเอส ได้ร่วมกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบพบผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวน 10 ราย ประกอบด้วย แพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก 5 ราย ทวิตเตอร์ 5 ราย ได้โพสต์ข้อความในลักษณะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการเชิญชวนเข้าร่วมการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงดีอีเอสได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีใครบ้าง และจะมี “ไมค์ ระยอง” เป็น 1 ใน 10 รายชื่อหรือไม่ หลัง เจ้าตัวโพสต์โซเชียลระบุว่าจะฝ่าวงล้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาชุมนุม
“ฝากเตือนว่าการโพสต์ที่มีการมาแจ้งความจะเป็นในลักษณะการเชิญชวนให้มาเข้าร่วมชุมนุม ซึ่งผิดข้อกำหนดอย่างชัดเจน คือ ห้ามมีการจับกลุ่มมั่วสุมชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และห้ามเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด รวมตลอดทั้งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์บรรดาที่มีข้อความอันอาจทำให้กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และเข้าความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) ในเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร จึงฝากไปถึงประชาชนในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้ใช้ความระมัดระวังตรงนี้ด้วย" รองโฆษก ตร. กล่าว