MGR Online - กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้องทุกข์ดีเอสไอ ดำเนินคดีบริษัทมหาชนชักชวนระดมทุนซื้อข้าวกอระ เข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ เบี้ยวจ่ายเงินปันผล เสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท
วันนี้ (12 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ชั้น 8 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กทม. น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้ก่อตั้งองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ พร้อมข้าราชการเกษียณ และประชาชนผู้เสียหายกว่า 100 คน เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกบริษัทมหาชนหลอกร่วมลงทุนซื้อข้าวกอระ แต่ไม่ได้รับเงินปันผลตามกำหนด มูลค่าความเสียหายกว่าหลักพันล้านบาท
น.ส.กฤษอนงค์เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าวเปิดระดมทุนให้ประชาชนร่วมลงทุนซื้อขายข้าวกอระ พร้อมจัดโปรโมชันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและการันตีได้รับเงินปันผลทุกเดือน แต่ภายหลังกลับไม่ได้จ่ายเงินตามกล่าวอ้าง ขณะนี้ได้มีการรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายแล้วกว่า 1,000 คน มีการแจ้งความต่อตำรวจ 44 สถานี ใน 21 จังหวัด โดยตำรวจได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหาเข้าให้ปากคำแล้ว ส่วนการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นพบว่า เฉพาะการลงทุนในเฟสแรกมีมูลค่าความเสียหาย 4,012 ล้านบาท จากการลงทุนซื้อข้าวกอระ 750,000 ยูนิต ซึ่งบริษัทมหาชนดังกล่าวยังพยายามเปิดบริษัทใหม่เพื่อชักชวนผู้เสียหายลงทุนแบบเดิมอีก โดยคาดว่ามีผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อสูงถึงหลักหมื่นคน ทั้งนี้ ที่มาร้องทุกข์กับดีเอสไอเพราะต้องการให้ดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด อยากให้มีการเร่งเยียวยาให้ผู้เสียหาย และหามาตรการป้องกันจากภาครัฐที่มีความชัดเจนรัดกุม
ด้านนายปิยะสิริกล่าวว่า ดีเอสไอทำหนังสือร้องทุกข์ตั้งแต่เดือน มิ.ย.แล้ว แต่ไม่มีผู้มาร้องจึงทำได้เพียงให้สืบสวนรวบรวมข้อมูลไว้ก่อน แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฐานแชร์ลูกโซ่ชัดเจน หลังจากที่ผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ต่อดีเอสไอในวันนี้จะสั่งการให้พนักงานสอบสวนติดต่อไปยังบริษัทผู้ถูกกล่าวหาให้เข้าให้ข้อมูลโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันจะเริ่มสอบสวนปากคำผู้เสียหายทันที โดยยืนยันว่าพร้อมจะให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายทุกคน นอกจากนี้ ดีเอสไอจะประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการออกใบอนุญาต สคบ.ให้กับ 1 ใน 3 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วย