MGR Online - ตำรวจปราบปรามยาเสพติดทลายเครือข่ายเสพติดจับผู้ต้องหา 13 คน ยึดของกลางยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด เฮโรอีน 400 กก. ยึดทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (8 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ นาวิน ผบก.ปส.4 และ พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด 13 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,042,000 เม็ด เฮโรอีน 400 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินอีกกว่า 10 ล้านบาท
คดีแรก บก.ปส.4 จับกุม นายบุญฤทธิ์ หรือ ตู่ ส่งแสง อายุ 37 ปี นางกัญญา ผสารพจน์ อายุ 32 ปี นายอนันต์ นกคง อายุ 37 ปี และ นายวีระชัย คุ้มไพรัน อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1 ล้านเม็ด รถบรรทุกสิบล้อทะเบียน 79-0829 สตูล ขยายผลยึดทรัพย์สินเป็นรถเก๋งและรถจักรยานยนต์ 2 คัน รวมค่า 9.5 หมื่นบาท แจ้งข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อขาย จับกุมได้ที่ลานจอดรถปั๊มน้ำมันใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต่อเนื่องลานดินข้างปั๊มน้ำมัน อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลังสืบทราบว่า มีเครือข่ายค้ายาเสพติดใน จ.นครศรีธรรมราช จะใช้รถบรรทุกขนยาเสพติดจากภาคกลางไปส่งในจังหวัด จึงเฝ้าติดตามรถต้องสงสัย ก่อนดักสกัดเข้าตรวจค้นพบนายบุญฤทธิ์เป็นคนขับรถดังกล่าว โดยมีนางกัญญาภรรยานั่งมาด้วย และมียาบ้าซุกซ่อนใส่กระสอบปุ๋ยในรถ 5 กระสอบ จึงจับกุม 2 สามีภรรยา และขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 คนดังกล่าว จากนี้จะสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป
คดีที่สอง บก.ปส.3 จับกุม น.ส.สหรัฐ นครวงษ์ อายุ 38 ปี (สาวหล่อ) นายอนุวัฒน์ เถื่อนประดิษฐ์ อายุ 37 ปี และ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สองพ่อลูก นายจ่าฉาย กล้าหาญ อายุ 43 ปี นายจื้อ แซ่เฮ่อ อายุ 37 ปี และ น.ส.น้ำฝน ฉายกล้าหาญ อายุ 34 ปี พร้อมของกลางเฮโรอีน 400 กิโลกรัม และรถกระบะ 3 คัน แจ้งข้อหาร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฎหมาย ภายหลังสืบทราบว่า มีเครือข่ายยาเสพติดชาวม้ง จะลอบขนยาเสพติดจาก จ.เพชรบูรณ์ เข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ โดยขับรถกระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน บบ 5064 พิจิตร กระทั่งพบรถต้องสงสัยขับมุ่งหน้าไปที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ก่อนตีรถกลับลงมาพร้อมบรรทุกสิ่งของไว้ท้ายกระบะ โดยคลุมผ้าใบและเครือกล้วยปิดทับไว้ ตำรวจจึงสกัดตรวจที่จุดคอกควาย ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พบเฮโรอีนอัดแท่งหนัก 400 กิโลกรัม มูลค่าในตลาดสูงถึง 115 ล้านบาทซ่อนในถุงปุ๋ยจึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดส่งดำเนินคดี
คดีที่ 3 บก.ปส.1 จับกุม นายเมือง เนอู ชาวเมียนมา อายุ 57 ปี พร้อมยาบ้า 4.2 หมื่นเม็ด รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน แจ้งข้อหามียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อขายและเป็นต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จับกุมได้ที่สุขสวัสดิ์อพาร์ตเมนต์ ย่านบางปะกอก กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่า นายเมือง เป็นผู้ค้ายาย้า และไอซ์ ตำรวจจึงไปตรวจสอบที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าว พบชายลักษณะตามรูปพรรณที่รับแจ้งขับรถเชฟโรเลต เข้ามาจึงสอบถามทราบว่าชื่อนายเมือง แต่ไม่มีหนังสือเดินทาง ค้นตามตัวและรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงขยายผลไปตรวจค้นในห้องพักอพาร์ตเมนต์ พบยาบ้ากว่า 4 หมื่นเม็ด จึงจับกุมพร้อมยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
และคดีที่ 4 บก.ปส.2 ขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดจากปฏิบัติการ “one raptor” ได้แก่ นายขวัญชัย บุตรา ตามหมายจับศาลหล่มสัก ในข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อขายและมีกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจับกุมนางรุ่งทิวา บุตรา ตามหมายจับศาลปทุมธานี ในข้อหาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ ได้ที่บ้านพักในต.ชอนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พร้อมยึดทรัพย์สิน บ้านและที่ดิน รถยนต์ 2 คัน รวมมูลค่ากว่า 10ล้านบาท ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมคนร้ายในขบวนการต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า สำหรับนโยบายในการปรายปรามยาเสพติดนั้น เราจะขับเคลื่อนในส่วนตำรวจให้เกิดรูปธรรม ตั้งแต่การจับกุมไปจนถึงการยึดอายัดทรัพย์สินต่างๆ ตามนโยบายสั่งการของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่แนวทางหลังจากนี้ ก็คิดว่า จะต้องทำให้ประชาชนในชุมชนต่างๆ มีส่วนร่วมในการสอดส่องป้องกันยาเสพติดอีกทางหนึ่ง
สำหรับสถานการณ์ในช่วงโรคโควิด-19 ระบาดนั้น พบว่า มีคนต่างด้าวลักลอบนำยาเสพติดผ่านเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติเราก็ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ และประเทศเพื่อนบ้านในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น
พล.ต.อ.มนู กล่าวอีกว่า ส่วนการยกเลิกด่านชั่วคราวตามนโยบายสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.นั้น หมายถึงการยกเลิกจุดตรวจจุดสกัดทั่วไป ไม่ใช่ด่านยาเสพติดและด่านความมั่นคง และเหตุผลการในยกเลิกด่านชั่วคราวนั้น เพื่อให้ไปออกแบบการตั้งด่านเกิดความชัดเจนโปร่งใสให้ผู้ถูกตรวจสบายใจตรวจสอบได้ ไม่ถูกกลั่นแกล้งหรือเรียกรับผลประโยชน์