xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ดับซ่าแก๊งส้มสนามท้องถิ่น ยื้อยาวเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563 ตอน ดับซ่าแก๊งส้มสนามท้องถิ่น ยื้อยาวเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.



เลือกตั้งท้องถิ่นกำลังเป็นเรื่องชวนติดตาม เป็นเกมการเมืองที่น่าสนใจเพราะอยู่บนการชิงไหวชิงพริบ ของกลุ่มการเมือง ที่จ้องกันตาเป็นมันเพื่อหวังส่งคนของตนไปยึดครอง ยึดเอาไว้เป็นฐานการเมือง เป็นบันไดให้การเมืองระดับประเทศต่อไป

โดยขณะนี้ มีข่าวความเคลื่อนไหวว่า เลือกตั้งท้องถิ่น จะตัดริบบิ้นล็อตแรก แห่งแรกจะเปิดสนามเลือกตั้งแรกกลางเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์นี้ จะสรุปให้สะเด็ดน้ำอีกที

ว่าจะเอาตามข้อเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง กับกระทรวงมหาดไทย เมื่อ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา หรือไม่ ที่มีวางแผนการเดินเกมเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ทั่วประเทศ

คาดว่า การประชุมครม.สัปดาห์นี้จะไฟเขียว ให้เลือกตั้งท้องถิ่นแบบใด แบบหนึ่ง จากรูปแบบอปท.ที่มีอยู่ด้วยกัน 4 รูปแบบ คือ 1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดหรืออบจ. 2.เทศบาล 3.องค์การบริหารส่วนตำบลหรืออบต. และ 4.องค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ คือกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา

แนวโน้มเลือกตั้งท้องถิ่น ล็อตแรกน่าจะเป็น อบจ. คือนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ควบคู่ไปกับการเลือกสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือส.จ.
เพราะยึดหลัก ต้องเลือกหัว ให้มีผู้บริหารในระดับจังหวัดก่อน

จากนั้นถึงค่อยลงไปในระดับหัวเมืองคือ เทศบาล ที่แยกเป็น เทศบาลนคร -เทศบาลเมืองและเทศบาลตำบล แล้วตามด้วย เลือกอบต. เป็นล็อตที่สาม

ที่ถูกจับตาก็คือ หากล็อตแรกเป็นการเลือกระดับผู้บริหารท้องถิ่น แล้วจะมีมติให้เลือก ผู้ว่าฯกทม. ด้วยหรือไม่ หลังจากที่คนกรุง โดนแช่แข็ง ไม่ได้ออกไปหย่อนบัตรเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.และส.ก มาร่วม 7 ปีแล้วหลังเลือกตั้งล่าสุดปี 2556

แต่ข่าวหนาหูว่า สนามผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร อาจจะต้องร้องเพลงรอไปอีกร่วมปี เพราะจะกำหนดให้เลือกกันเป็นประเภทสุดท้าย ซึ่งประมาณว่าจะไปเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ตอนเดือนสิงหาคม ปีหน้า เลยทีเดียว

สำหรับวันเลือกตั้งท้องถิ่นล็อตแรก คือนายกฯอบจ. กับสจ. กำหนดไว้วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม อันเป็นวันที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด

แต่เลือกตั้งผู้ว่าฯกทมแนวโน้ม ลากยาวเอาไว้ก่อน รัฐบาลคงขอประเมินอีกรอบ โดยเฉพาะ ขอส่งพรรคพลังประชารัฐไปทำศึกเลือกตั้งอบจ. ก่อนเพื่อจะขยี้ฝาายตรงข้ามให้รายคาบเสียก่อนในสนามตจว.

และโดยเฉพาะขอดับซ่า ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับพรรคก้าวไกลและกลุ่มก้าวหน้า ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับปิยบุตร แสงกนกกุลก่อน ที่วางหมากเดินเกมการเมืองท้องถิ่นมาอย่างดี

เสร็จศึกต่างจังหวัดแล้วค่อยมาเปิดแนวรบในเมืองหลวง ก็จะเป็นการดีกว่า ที่ไม่ต้องเปิดแนวรบสองด้าน อีกประการหนึ่ง รัฐบาลคงรอดูความพร้อมของ พรรคพลังประชารัฐด้วย ว่า จะได้ตัวผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ที่สู้กับคนอื่น ๆอย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ ได้หรือไม่

หาก พลังประชารัฐ ยังหาตัวแคนดิเดท ที่พอชนะใจคนกรุงไม่ได้ พลังประชารัฐ ก็คงดึงเกมยาว ด้วยการส่งซิกให้รัฐบาล ยังไม่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ธันวาคมนี้ โดยให้เลือกนายกฯอบจ. ไปก่อน เพื่อปลดเบรกให้คนอยากเลือกตั้งไปพลางๆก่อน

ดูสถานการณ์ในเวลานี้ เห็นชัดว่า พรรคพลังประชารัฐ คาดหวังไว้มากกับศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.รอบนี้ ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล และพรรคที่มีส.ส.เขต กรุงเทพมหานครมากที่สุดร่วม 12 ที่นั่ง จึงเป็นเดิมพันที่พลังประชารัฐ ไม่ต้องการให้แพ้

เพราะหากพลังประชารัฐแพ้ เอฟเฟคต์ตามมาสูง จะถูกมองได้ว่า รัฐบาลพลังประชารัฐขาลง คนกรุงเทพมหานคร ไม่เอาพลังประชารัฐ คนกรุงเทพ เบื่อลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว มันจะยิ่งยุ่งกันไปใหญ่

ดังนั้น หากพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่พร้อมเต็มถัง รัฐบาลดึงเกมยาว ยื้อเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แน่นอน
ซึ่งหมากนี้ อีกหนึ่งพรรคที่ได้ประโยชน์ตามไปด้วย ก็คือ ประชาธิปัตย์

เพราะเึงเกมออดไปก็ทำให้ ประชาธิปัตย์ มีเวลามากขึ้นในการตัดสินใจว่าจะส่งคน หรือไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง และหากส่ง จะส่งใคร หลังก่อนหน้านี้ มีข่าวลือ ทำนอง ประชาธิปัตย์ จะหลบทางให้พลังประชารัฐ

สูตรเดียวกับ ที่พรรคเพื่อไทย อาจไม่ส่งคนลงทำศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แล้วจะไปสนับสนุน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แทน เพื่อไม่ให้คนของเพื่อไทยกับชัชชาติ คะแนนตัดกันเอง

แต่สำหรับประชาธิปัตย์ ที่ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มา 4 สมัยติดต่อกัน ในยุคอภิรักษ์ โกษะโยธินและม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร หากพรรคไม่ส่งคนลงสู้ศึกผู้ว่าฯกทม. ถือว่าเสียหายมาก

เว้นเสียแต่ประชาธิปัตย์ หาตัวไม่ได้จริง ๆ แล้วคนที่พรรคมองไว้ ประเมินแล้ว สู้ไม่ได้ แกนนำประชาธิปัตย์ ก็ต้องคิดหนักพอควร

เพราะเห็นกันอยู่ กระแสพรรคในกรุงเทพฯ หลังแพ้ย่อยยับ ในศึกเลือกตั้งส.ส.เมื่อปีที่แล้ว ที่ประชาธิปัตย์สูญพันธ์หมด ไม่ได้ส.ส.กทม.แม้แต่คนเดียว ถึงเวลานี้ กระแสประชาธิปัตย์ ในกทม.ก็ยังไม่กระเตื้อง หากพรรคไม่ได้ผู้สมัครระดับบิ๊กเนม มีกระแสในกรุงเทพ มันก็ยากที่ประชาธิปัตย์จะชนะได้

แล้วหากส่งลงไป เกิดแพ้ยับเยิน ขวัญ-กำลังใจ คนประชาธิปัตย์ในพื้นที่กทม. แตกกระเจิง กู่ไม่กลับแน่ แต่ครั้น จะหมอบให้พรรคอื่น ไม่ส่งคนลง ก็เสียอีกเช่นกัน

ดังนั้น ด้วยเหตุผลจากการกำหนดยุทธการดับซ่าแก๊งสีส้มให้เบ็ดเสร็จในสนามตจว. และบวกกับความไม่พร้อมของสองพรรค ร่วมรัฐบาล ทั้ง พลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ คงทำให้คนกรุงเทพฝันรอยาวๆกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ต่อไปก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น