ตำรวจ สน.โชคชัย คุมตัวผู้ต้องหาผัวเมียก่อเหตุชิงทองรูปพรรณ 221 บาท มูลค่า 6 ล้านกว่าบาท ในห้างโลตัส-วังหิน มาฝากขังพร้อมคัดค้านประกัน เนื่องจากมีหมายจับ สภ.ขอนแก่น และเกรงจะหลบหนี ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (1 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้ควบคุมตัวนายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ อายุ 38 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ กับนางจันดา หรือน้อย จันทร์โศก อายุ 31 ปี ภรรยาชาวลาว สองผู้ต้องหาคดีปล้นทอง มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญา ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การภาคเสธ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2563 เวลาประมาณ 10.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายไทย อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร การแต่งกายใส่เสื้อแขนยาวสีขาว สวมหมวกกันน็อกครึ่งใบสีแดง สวมผ้าปิดปากสีขาว ผมยาว กางเกงขายาว และพกพาอาวุธปืนสั้นลูกโม่สีเงิน ได้กระโดดข้ามกระจกบริเวณหน้าร้านทองที่เกิดเหตุ ข้ามไปยังบริเวณจุดแขวนแผงขายทองรูปพรรณ จากนั้นได้นำอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่พนักงานในร้าน แล้วยังได้ชิงทองคำรูปพรรณ น้ำหนักรวมประมาณ 221 บาท มูลค่าความเสียหาย 6,580,000 บาท และระหว่างที่คนร้ายได้ทำการกระชากเอาทองคำรูปพรรณจากแผงทองได้ ทำให้กระจกบานเลื่อนแตกเสียหาย จำนวน 3 บาน รวมมูลค่าความเสียหาย ทั้งหมดประมาณ 6,583,860 บาท แล้ววิ่งหลบหนีไป ทางหลังห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาวังหิน ถนนลาดพร้าววังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ขึ้นจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นทีทีเอ็กซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับขี่หลบหนีไปเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ oppo 1 เครื่อง, ทองคำรูปพรรณ 1 เส้น, ไขควงแฉกแบบสั้น สีเขียวดำ 1 ตัว, กางเกงยีนส์สีน้ำเงินยี่ห้อ erawon และ ยี่ห้อ ESP ป้ายสีน้ำตาล 2 ตัว, เสื้อยืดสีน้ำเงิน, เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว, เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว, กระเป๋าเป้สีดำ ยี่ห้อ Biaowang, เข็มขัดหนังสีน้ำตาล ยี่ห้อ ESP, รองเท้าผ้าใบสีเทา ยี่ห้อ NIKE, รูปถ่ายจำนวน 9 รูป บรรจุอยู่ในถุงรูปถ่ายและอื่นๆ รวมของกลางจำนวน 19 รายการ
และจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมด้วยพยานวัตถุเป็นกระเป๋าสะพายสตรี สีเขียวอ่อน 1 ใบ, สร้อยคอทองคำ ลายซีตรอง น้ำหนัก 120.6 กรัม จำนวน 1 เส้นสร้อยคอทองคำ ลายแปดเส้า น้ำหนัก 120.6 กรัม จำนวน 1 เส้น, สร้อยคอทองคำ ลายกระดูกมังกร น้ำหนัก 90.5 กรัม จำนวน 1 เส้น, ถุงเท้าสีเหลืองปลายคาดสีขาว 1ชิ้น,นาฬิกาบุรุษ ยี่ห้อ SEIKO สีเงิน จำนวน 1 เรือน, บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย รวม 2 ใบ, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงอ เอ 7 จำนวน 1 เครื่อง, หนังสือเดินทางประเทศลาว จำนวน 1 เล่ม และอื่นๆ รวม 27 รายการ จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นนั้นเข้าด้วยประการใดๆ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้, ใช้อาวุธปืนหรือร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมและมีอาวุธปืนไว้ครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, เฉพาะผู้ต้องหาที่ 2 ยังมีความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด เหตุเกิดที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ สาขาภายในห้างโลตัส-วังหิน ถนนลาดพร้าว-วังหิน แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องยังระบุว่า พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจะครบกำหนด 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จะต้องสอบปากคำอีก 6 ปาก, รอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง และผลตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา จึงอำนาจศาลฝากขังมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่ 1-12 ต.ค. 2563 และพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้มีหนังสือขออายัดตัวผู้ต้องหามายัง สน.โชคชัย ซึ่งมีหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 227/2563 ลงวันที่ 27 ก.ค. 2563 ข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ อีกทั้งเป็นคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ เจ้าหน้าทีราชทัณฑ์จึงนำตัวไปยังคุมขังระหว่างฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป