MGR Online - ผบก.น.4 ประชุมเร่งคลี่คลายคดีคนร้ายบุกใช้ปืนจี้ชิงทองหนัก 221 บาท ห้างย่านวังหิน เผยรู้เบาะแสคนร้ายแล้ว มีหลักฐานยืนยันจับตัวจริงได้แน่นอน
จากกรณีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อแขนยาวสีเทา สะพายกระเป๋าข้างสีดำ สวมหมวกกันน็อกสีแดงครึ่งใบ สวมหน้ากากอนามัย และมีลักษณะเหมือนคนใส่วิกผมสีน้ำตาล บุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัส วังหิน แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. กวาดทองไปประมาณ 221 บาท มูลค่า 6.5 ล้านบาท ก่อนจะขี่จักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป ล่าสุดพบรถที่คาดว่าเป็นของคนร้ายจอดอยู่ในภายในซอยเสนานิคม 1 แขวงและเขตลาดพร้าว ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (28 ก.ย.) ที่ สน.โชคชัย พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 เปิดเผยภายหลังได้เรียกชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ประชุมเพื่อเร่งคลี่คลายคดีว่า ขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 9 ปากโดยเบื้องต้นพบว่ามีทรัพย์สินซึ่งเป็นทองรูปพรรณสูญหายไป 221 บาท 50 สตางค์ มูลค่าประมาณ 6.5 ล้าน ขณะที่ทางร้านทองดังกล่าวมีประกันภัย ส่วนทางคดีชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งก่อนเกิดเหตุหลังเกิดเหตุ และบุคคลที่ให้การช่วยเหลือคนร้าย โดยจะนำคดีที่คนร้ายแต่งกายเป็นหญิงโจรกรรมจักรยานยนต์มาก่อเหตุชิงทองในห้างบิ๊กซีพระราม 4 พื้นที่ สน.ทองหล่อ เมื่อต้นปี 2562 มาเทียบเคียงว่าเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และจะตรวจสอบแผนประทุษกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทองย้อนหลังไป 5-10 ปีในพื้นที่ใกล้เคียงและพื้นที่ต่างจังหวัด
นอกจากนี้ พอจะทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว คาดว่าเร็วๆ นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงจะทำการตรวจสอบจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่ตรวจยึดมาได้ และรถแท็กซี่ที่รับคนร้ายไปส่งหน้าห้างย่านลาดพร้าวว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ โดยตำรวจจะมีการตรวจสอบพฤติกรรมของคนร้ายที่ดูเหมือนมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธปืนและยุทธวิธีในการยับยั้งไม่ให้บุคคลอื่นเข้าไปใกล้ขณะก่อเหตุว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้นจะมีการตรวจสอบต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย ระบุว่า มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 30 ปาก ตำรวจจะพิจารณาว่าพยานรายใดที่มีน้ำหนักจะนำเข้ามาในสำนวนการสอบสวน โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาตำรวจมีการตรวจตราและเฝ้าระวังเหตุ รวมทั้งเข้าไปพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านทองมาโดยตลอด ผู้ประกอบมีบางรายที่ให้ความร่วมมือ แต่บางรายไม่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะร้านที่อยู่ภายในห้างเพราะเกรงว่าหากติดลูกกรงจะทำให้เสียทัศนียภาพ และร้านทองเองคิดว่าทางร้านมีประกันภัยจึงไม่กลัวว่าจะมีคนร้ายมาก่อเหตุ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รอง ผบช.กมค. เป็นประธานการประชุมคอนเฟอเรนซ์ ศปก.ตร.ไปยัง สน.โชคชัย ถึงกรณีดังกล่าว โดยจากการสอบถามตำรวจ สน.โชคชัย รายงานว่าคดีมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก ขณะเดียวกัน ได้มีข้อสั่งการลงไปตามปกติเรื่องให้ดูแลรักษาความปลอดภัยร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า พร้อมกำชับให้เก็บรักษาของกลางพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งคราบเลือดที่สามารถตรวจหาดีเอ็นเอคนร้ายได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านทองไปจนถึงสถานที่อพาร์เตมนต์แห่งหนึ่งย่านเสนานิคม จนพบจักรยานยนต์ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้และเสื้อแจ็กเกต นอกจากนี้ยังพบคราบเลือดบริเวณตู้แสดงสินค้าเนื่องจากคนร้ายใช้มือทุบไปที่ตู้เพื่อชิงทรัพย์ซึ่งพยานหลักฐานส่วนนี้สามารถยืนยันถึงคนร้ายตัวจริงได้อย่างแน่นอน