MGR Online - รมว.ดีอีเอส หอบหลักฐานเอาผิด “เพนกวิน” หนึ่งในผู้โพสต์เฟซบุ๊กยุยงปลุกปั่น และบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ไม่ปิดกั้นข้อมูลละเมิดกฎหมายไทย
วันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 11.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อม นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดีอีเอส เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก ปอท. และ พ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีต่อผู้โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูงในสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งการยุยงปลุกปั่นตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมดำเนินคดีต่อแพลตฟอร์มต่างประเทศ เพจหรือเว็บไซต์ผิดกฎหมายที่ไม่ดำเนินการปิดภายใน 15 วัน
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาดีอีเอสได้ใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.27 ขอคำสั่งศาลให้ปิดกั้นข้อมูลที่ผิดกฎหมายในแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูป ทวิตเตอร์ กูเกิล ภายใน 15 วัน แต่เนื่องด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลดังกล่าวได้รับจดหมายเตือนไปแล้ว พบยังมีผู้ให้บริการบางรายให้ความร่วมมือไม่เต็มที่ แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 661 ลิงก์ ปิดแล้ว 225 ลิงก์ เหลือ 436 ลิงก์ ยูทูป 289 ลิงก์ ปิดทั้งหมดแล้ว ทวิตเตอร์ 69 ลิงก์ ปิดเพียง 5 ลิงก์ เหลือ 64 ลิงก์ และอินสตาแกรม 1 ลิงก์ ยังไม่ปิด จึงต้องรวบรวมหลักฐานนำส่งตำรวจ ปอท.เพื่อให้ดำเนินคดีซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ใช้กฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.27 เอาผิดผู้ให้บริการ โดยจะฟ้องไปยังบริษัทแม่ของทุกองค์กรและพร้อมให้สิทธิมาชี้แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายไทยเพราะความผิดเกิดขึ้นในประเทศไทย
นายพุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า ดีอีเอส ยังรวบรวมหลักฐานจากสื่อโซเชียลต่างๆ ช่วงการชุมนุมระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามี 5 รายที่กระทำผิดตาม ม.14 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แบ่งเป็นเฟซบุ๊ก 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นแอดมิน แต่ไม่มีกลุ่มตลาดหลวง และยังมีทวิตเตอร์อีก 3 ราย เป็นแกนนำกลุ่มนักศึกษา พร้อมมอบเอกสารให้ตำรวจ ปอท.ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีอีกกลุ่มที่กำลังรวบรวมข้อมูลกว่า 3,000 รายการ เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามก สถาบันฯ ยาเสพติด ละเมิดลิขสิทธิ์
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์เผยว่า ตำรวจ ปอท.จะดำเนินการใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกผู้ให้บริการแพลตฟอร์มไม่ปิดกั้นข้อมูล ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.27 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตาม ม.18 หรือ ม.20 หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตาม ม.21 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละ 5 พันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง และส่วนที่ 2 คือ ผู้โพสต์ข้อความไม่เหมาะสมช่วงการชุมนุมก็จะสืบสวนตามขั้นตอนต่อไป
รายงานแจ้งว่า สำหรับดีอีเอสแจ้งความดำเนินคดีพบว่ามีชื่อนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน หนึ่งในแกนนำม็อบชุมนุมสนามหลวง ร่วมอยู่ด้วย