ตม.หวดซ้ำฝรั่งดำน้ำจับสัตว์ทะเลถ่ายภาพ ฐานเปลี่ยนที่พักไม่แจ้ง จนท.เล็งเนรเทศขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าไทย

ตม.ฟันซ้ำสองชาวต่างชาติดำน้ำอ่าวหาดสหัด สุราษฎร์ธานี จับสัตว์ทะเลถ่ายรูปในเขตอุทยาน สั่งปรับ 4,000 บาท ฐานเปลี่ยนที่พักอาศัยโดยไม่แจ้ง เจ้าของบ้านโดนด้วยปรับ 1,600 บาท มีต่างด้าวมาอาศัยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ เตรียมเสนอขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าไทย

วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโซเชียลเผยแพร่ภาพ นักดำน้ำชาวต่างประเทศ สองราย ทราบชื่อต่อมา นายฟรานเชสโก ซีโมเนสติ สัญชาติอิตาลี และ นายแอตตีลา ออต สัญชาติฮังการี ทั้งสองมาดำน้ำบริเวณอ่าวหาดสหัด ม.8 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกับจับสัตว์ทะเลนำมาถ่ายรูปในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าแจ้งความ สภ.เกาะพะงัน ในข้อหา “ร่วมกันกระทำ หรือประกอบกิจการใดๆ ในแนวปะการังที่อาจเป็นอันตรายหรือมีผลกระทบต่อเต่าทะเล ปลาสวยงาม หรือทำให้หอยมือเสือ กัลปังหา ปะการังหรือซากปะการัง ทำลายหรือเสียหาย” พร้อมนำตัวมาเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในส่วนของ ตม.ได้สั่งการดำเนินคดีชาวต่างชาติทั้งสองรายแล้ว โดยแจ้งข้อ นายฟรานเชสโก ซีโมเนสติ สัญชาติอิตาลี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 54 ม.6 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเจ้าของบ้านเอง แต่มีการเปลี่ยนที่พักอาศัยโดยไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานภายใน 24 ชม. ตาม ม.37 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 4,000 บาท ส่วน นายแอตตีลา ออต สัญชาติฮังการี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 135/22 ม.1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี นั้น มี น.ส.กฤติยาภรณ์ คำสิงห์ เป็นเจ้าบ้าน ซึ่งในระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง ไม่ปรากฏว่า มีการแจ้งที่พักอาศัย ตาม ม.38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 จึงได้เปรียบเทียบปรับ น.ส.กฤติยาภรณ์ เป็นเงิน 1,600 บาท

โดยกำลังรวบรวมเอกสารเพื่อดำเนินการเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาว่าอาจใช้กฎหมายพิเศษตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพิกถอนการเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร และส่งกลับประเทศบ้านเกิด รวมถึงอาจจะห้ามเข้าประเทศไทยในอนาคตได้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการกระทำความผิดอย่างนี้อีกต่อไปในอนาคต

ทางด้าน พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.1 ในฐานะรองโฆษก สตม.ปฏิบัติหน้าที่แทนโฆษก สตม. ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นการกระทำความผิดของชาวต่างชาติด้วยพฤติกรรมส่วนบุคคลเท่านั้น และเป็นส่วนน้อย ไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นคนสัญชาติใด เพราะใครผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย อยู่ในผืนแผ่นดินไทย ก็ต้องเคารพ และให้เกียรติคนไทยและกฎหมายไทย ผู้กระทำความผิดอาจมองเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ไปรบกวนกระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ในระบบนิเวศของสัตว์ทะเลเป็นอย่างมาก และกระทบกระเทือนต่อจิตใจของคนไทยที่เป็นเจ้าบ้านเจ้าของพื้นที่ทะเลไทย โดยหากพบชาวต่างชาติกระทำความผิดหรือกระทำไม่เหมาะสมสุ่มเสี่ยงให้เสียหายต่อประเทศไทย ไม่ว่าเรื่องใด สามารถแจ้งเบาะแสแจ้งข่าวได้ที่ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีทุกที่ทุกจุดที่มีที่ทำการ หรือแจ้งหมายเลขสายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 1178 ได้ทันที