สาวนักธุรกิจร้องทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถูกที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนไก่ดี สมุทรสาคร ชักปืนตบหน้าทวงหนี้ หลังค้ำเพื่อนนักธุรกิจชาวจีนกู้เงิน
วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.วลิดา หรือแพรวา วงศ์ภักดี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169/204 ม.3 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ สุวรรณะ อายุ 34 ปี สามี เดินทางเข้าร้องเรียนต่อนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลัง น.ส.วลิดา โดนนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังใช้อาวุธปืนตบเข้าที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ แต่คดีไม่คืบหน้า แถมนักการเมืองคนดังกล่าวยังโทร.มาข่มขู่ไม่เว้นแต่ละวัน
น.ส.วลิดาเปิดเผยว่า ตนเองทำธุรกิจนำเข้าเครื่องจักร เมื่อปี 2560 นายยู่ หง หวง เพื่อนนักธุรกิจชาวจีนขาดสภาพคล่องทางการเงินจึงขอให้ตนช่วย ตนจึงแนะนำให้ไปกู้เงินจากนายสุพิศ ทรัพย์ศรี อดีตนายก อบต.แห่งหนึ่ง ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนไก่ดี จ.สมุทรสาคร เป็นจำนวนเงิน 5.5 ล้านบาท โดยเสียดอกเบี้ยในอัตรา 2.5% ต่อเดือน และเสียดอกเบี้ยเรื่อยมาไม่เคยขาด
ต่อมาเพื่อนชาวจีนเดินทางกลับประเทศและยังไม่สามารถกลับเข้ามาได้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่เพื่อนก็ยังติดต่อทำการค้าพูดคุยกันตลอดเวลา แต่แล้วจู่ๆ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 63 เวลา 17.00 น. ขณะที่ตนเองกำลังทำผมอยู่ที่ร้านเสริมสวย นายสุพิศ นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังรายนี้ ได้เข้ามาที่ร้าน พร้อมยื่นเอกสารให้ตนเองเซ็นรับสภาพหนี้ที่เพื่อนกู้ไว้ ตนเองพยายามอธิบายเหตุผลต่างๆ ว่าไม่ใช่คนกู้ และเพื่อนชาวจีนก็ติดต่อกันตลอดเวลาว่าเขาพร้อมจะใช้หนี้ไม่ได้หนีไปไหน แต่ นายสุพิศเอาแต่เอะอะโวยวายไม่ฟังคำอธิบาย แถมยังดุด่าต่อว่าตนเอง พร้อมชักอาวุธปืนลูกโม่ขึ้นมาตบเข้าที่ใบหน้าตนเอง 2 ครั้ง ชกใส่หน้าอีก 1 ครั้ง จนจมูกที่เสริมมาเบี้ยว หน้าผากเป็นแผลแตก ตาซ้ายบวม ระหว่างนั้นสามี คือ นายประสิทธิ์ เข้ามาและพยายามห้ามปราม นายสุพิศจึงออกจากร้านไป
น.ส.วลิดากล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุตนเองได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ทิวัตถ์พล ทวิชสังข์ศักดิ์ เพื่อดำเนินคดีต่อนายสุพิศ และเข้ารักษาบาดแผลถูกทำร้ายที่ รพ.กระทุ่มแบน แต่ปรากฏว่าคดีไม่มีความคืบหน้า มิหนำซ้ำยังถูกนายสุพิศโทรศัพท์มาข่มขู่ไม่เว้นแต่ละวันว่าระวังตัวไว้ ตนเองกับสามีรู้สึกหวาดกลัว เกรงจะไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความยุติธรรมจึงเดินทางมาร้องทนายรณณรงค์ให้ช่วยเหลือในเรื้องนี้
ขณะที่ทนายรณณรงค์กล่าวว่า ต้องเข้าไปดูรายละเอียดในพื้นที่ และต้องดูว่า สภ.กระทุ่มแบน จะทำคดีให้หรือไม่ หรือว่าติดขัดในเรื่องปัญหาอิทธิพลอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่ดำเนินเรื่องให้จะส่งเรื่องไปที่กรองปราบฯ ผู้ที่ลงมือเป็นนักการเมืองในพื้นที่ เกรงว่าจะมีอิทธิพลมากกว่าตำรวจ ทางกฎหมายจะโดนคดี ทำร้ายร่างกายตามมาตรา 295 พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และก็เรื่องของการข่มขู่ จะต้องรอดูว่าตำรวจกระทุ่มแบนจะดำเนินการให้เราอย่างไรบ้าง โทษจำคุกสูงสุด 5 ปี โดยมีการข่มขู่และใช้กำลัง ซึ่งในการกู้ยืมเงินจะต้องใช้หลักฐานเป็นหนังสือลายเซ็นทั้งผู้กู้และผู้ค้ำ ถ้าเราไม่ได้เป็นคนกู้ คนค้ำ จึงไม่ใช่เหตุที่จะต้องรับผิดชอบ