ตำรวจทยอยจับแกนนำเยาวชนปลดแอก ลำดับที่ 12, 13 และ 18 “ธนาธร-ช่อ พรรณิการ์” โผล่ให้กำลังใจทนายอานนท์ ด้าน “รังสิมันต์ โรม-ส.ส.พรรคก้าวไกล” หอบเงินสด 150,000 บาท และใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัว แต่ตำรวจไม่อนุญาต ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่แกนนำได้ผลัดกันใช้เครื่องกระจายเสียงปราศรัยโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนสลายการชุมนุมเวลา 02.00 น.
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น.พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เข้าควบคุมตัว นายอานนท์ นำพา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีมาตรา 116 จากการทำกิจกรรมปราศรัยทางการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดย นายอานนท์ โดนรวบขณะเดินทางไปว่าความที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ส.ค. ก่อนถูกคุมไปสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ สน.ชนะสงคราม มีมวลชนประมาณ 50 คน เดินทางไปที่หน้าโรงพัก พร้อมใช้เครื่องกระจายเสียงกล่าวติติงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้นำกำลังสายตรวจประมาณ 30 นาย วางแผงเหล็กกัันพื้นที่ทางเดินเข้าโรงพัก เพื่อป้องกันมวลชนลุกฮือเข้าไปขัดขวางการทำงานของพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ.191 นำรถวิทยุสายตรวจรวม 4 คัน มาจอดป้องกันเหตุร้าย ซึ่งอาจมีมือที่ 3 แฝงตัวเข้ามาสร้างสถานการณ์ได้
ขณะที่ นายกฤษฏางค์ นุตจรัส ทนายความของนายอานนท์ พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม, ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางมาสน.ชนะสงคราม พร้อมนำเงินสด 150,000 บาท และใช้ตำแหน่ง ส.ส.เป็นนายประกัน พร้อมเปิดเผยว่า ทางด้านของตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมารวมให้กำลังใจ ได้จุดเทียนฉลองวันเกิดให้กับ นายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษย์ชน โดยในช่วงเช้า ทางตำรวจจะนำตัวนายอานนท์ ไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา
ขณะที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ก็เข้าทำการจับกุมตัว นายบารมี ชัยรัตน์ เลขาธิการสมัชชาคนจน ผู้ต้องหาลำดับที่ 18 ตามหมายจับศาลอาญา ความผิดตามมาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ จากกรณีเข้าร่วมชุมนุมเยาวชนปลดแอก ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยควบคุมตัว นายบารมี ได้ใกล้กับวัดบวรนิเวศวิหาร ก่อนพาเข้าไปทำการสอบสวนที่โรงพัก ทำให้มวลชนที่ทราบข่าวพากันเดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์ กว่า 100 คน รวมถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ก็ได้เดินทางมาเพื่อขอพบนายบารมี ด้วยแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาต นายธนากร จึงมีการนั่งพูดคุยร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมสักพักแล้วเดินทางกลับ
โดยระหว่างที่ นายธนากร กำลังเดินเท้าออกจาก สน.สำราญราษฎร์ ได้มี นายอภิรักษ์ ชัยอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ เน็ตไอดอลชื่อดัง แวะมาทักทาย เพื่อจะขอคุยกับนายธนาธร ประเด็นทางการเมือง แต่ นายธนาธร ไม่ประสงค์พูดคุยกับนายอภิรักษ์ แต่อย่างใด จึงกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนเองกำลังจะเดินทางกลับ เพราะมีภารกิจในช่วงเช้า ส่วนที่เดินทางมาคืนนี้ เนื่องจากต้องการพบและให้กำลังใจนายบารมี แต่ถูกปฏิเสธจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาเมื่อเวลา 01.00 น.ขณะที่ นางสุวรรณา ตาลเหล็ก ผู้ต้องหาลำดับที่ 13 คดีเดียวกัน ได้เดินทางจาก สน.ชนะสงคราม มาที่ สน.สำราญราษฎร์ ก่อนให้ข้อมูลกับกลุ่มมวลชนที่มาเฝ้ารอที่หน้าโรงพัก ว่า ขณะที่อยู่ที่ สน.ชนะสงคราม ได้มีกลุ่มชายที่อ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เข้ามาพยายามฉุดรั้งไม่ให้ตนเองเดินทางมา โดยตนได้ชี้แจงว่า กำลังจะเดินทางมาที่ สน. สำราญราษฎร์ กลุ่มชายดังกล่าวจึงปล่อยตัว แต่มีการกระทบกระทั่งกันด้วยวาจาเล็กน้อย ต่อมา น.ส.สุวรรณา เดินทางมาถึงสน.สำราญราษฎร์ ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.จึงได้แสดงหมายจับให้ น.ส.สุวรรณา ดูพร้อมอ่านรายละเอียดให้ฟัง จากนั้นได้ควบคุมตัวให้พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ระหว่างที่มวลชนกำลังปราศรัยปลุกใจกันอยู่บริเวณหน้า สน.สำราญราษฎร์ นั้น นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หนึ่งในแกนนำที่ร่วมขึ้นปราศรัยในวัน 18 ก.ค.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 12 ก็ตามมาสมทบด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบจึงแสดงหมายจับให้ดูพร้อมอ่านรายละเอียด ให้ฟังทั้งหมดก่อนจะคุมตัว นายกรกช เข้าโรงพักไปสอบสวนอีกราย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของมวลชนที่พากันแสดงอารยะขัดขืนด้วยการชูสามนิ้วขึ้นเหนือศีรษะไปส่งเพื่อนๆ ที่ถูกจับกุมจนถึงทางขึ้นห้องพนักงานสอบสวน
อย่างไรก็ตาม ทาง พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนกว่า 20 นาย คอยวางรั้วกั้นทางเข้าโรงพัก และจัดกำลังตำรวจในเครื่องแบบคอยตรวจตราและค้นวัตถุต้องสงสัยผู้ที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด ขณะที่ทางกลุ่มมวลชนซึ่งส่วนใหญ่มีนักศึกษาเป็นแกนนำได้ผลัดกันใช้เครื่องกระจายเสียงปราศรัยโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สลับกับการร้องเพลงจนถึงเวลา 02.00 น.ก็ประกาศสลายการชุมนุมเพื่อกลับไปพักผ่อนและคอยติดตามข่าวสารการส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ในช่วงเช้าวันนี้ โดยคาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวจากทางตำรวจตั้งแต่เวลา 08.00 น.