“ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2563 ตอน ติดล็อก ล้ม ส.ว.เป็นจริงยาก ข้อเรียกร้องไม่จบ ตุลาฯ เดือด
การชุมนุม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็น กิจกรรม ที่เริ่มจากแฟลชม็อบ ในรั้วมหาวิทยาลัย ขยับเพดานขึ้นเป็น คณะประชาชนปลดแอก
ตอนนี้ ได้สร้างความหนักใจ ให้กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแกนนำรัฐบาลพลังประชารัฐ ไปเรียบร้อยแล้ว
ทำให้ต่อจากนี้ ข้อเรียกร้องหลักทั้งสามข้อ กับอีกสองจุดยืน ของคณะประชาชนปลดแอก ที่มีแนวร่วมเป็นกลุ่มนิสิตนักศึกษา หลายสถาบันทั่วประเทศ ได้กลายเป็นข้อเรียกร้อง ที่ทำให้ พลเอกประยุทธ์และรัฐบาล จะทำหูทวนลม ไม่ให้ความสำคัญไม่ได้แล้ว
เพราะดูสถานการณ์นับจากนี้ คาดว่า แนวโน้ม กลุ่มคนรุ่นใหม่ -นักศึกษา ทั่วประเทศ พร้อมจะก่อตัว และเป็นแนวร่วม กับคณะประชาชนปลดแอกเพิ่มมากขึ้น อาจเป็นการเพิ่มแบบพรวดพราด แต่จะค่อยๆ สะสม แฟนคลับ กองเชียร์ ที่จะเริ่มแสดงตัวตนให้เห็นมากขึ้น
คาดกันว่า คณะประชาชนปลดแอก อาจจะใช้ช่วงเดือนตุลาคม นัดชุมนุมเคลื่อนไหวใหญ่กลับมาบนถนนราชดำเนิน อีกครั้ง หากข้อเรียกร้องต่างๆ ไม่มีความคืบหน้า และคงมี คนรุ่นใหม่ นักศึกษา มาร่วมชุมนุมมากกว่า เดิมแน่
เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ หนึ่งในปัจจัย สำคัญ ทีจะนำพาสถานการณ์การเมืองไทย ต่อจากนี้ไปในทิศทางใด
แนวทางในการแก้ไขรธน.ตามที่ คณะประชาชนปลดแอก ได้เสนอโรดแมพเอาไว้ โดยเรียกร้องให้ เริ่มจากยกเลิก รัฐธรรมนูณ มาตรา 269-272 ที่เป็นมาตราในบทเฉพาะกาล
เพื่อโละ 250 ส.ว.ที่มาจากการเลือกของคสช. ที่ให้อยู่ในอำนาจ5ปี และมีอำนาจพิเศษคือ สามารถมาร่วมโหวตเลือก นายกรัฐมนตรี พร้อมกับ ส.ส.
โดยคณะประชาชนเสนอให้ ใช้วิธี นำ ส.ว.ทั้งหมด ออกไปจากรัฐธรรมนูญ และรัฐสภาภายในเดือนกันยายน 2563 นี้
ข้อเสนอแบบเร่งด่วนอันนี้ ก็คือการเสนอให้แก้ไข รธน.รายมาตราไปก่อน โดยโละทิ้ง ส.ว.ออกไปทั้งแผง
จากนั้น คณะประชาชนปลดแอก เสนอว่าขั้นตอนต่อไป คือให้รัฐสภาต้องแก้ไข รธน.ม.256 มาตราที่เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 โดยเสนอให้ยกออก และเปลี่ยนแก้ทั้งมาตรา
โดยแก้ให้เป็นว่า ให้มีการตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้มีสมาชิกสภาร่าง รธน.หรือ สสร. มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเสนอให้ รัฐบาลต้องประกาศยุบสภา จัดตั้งรัฐบาลใหม่
หากดูตามข้อเสนอโรดแมปดังกล่าว ก็จะพบว่า
คณะประชาชน ปลดแอก เทน้ำหนักไปว่า สภาสูง หรือสว. 250 ที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน คือด่านสกัด สำคัญที่สุดในการแก้ไข รธน. ดังนั้น ต้องโละทิ้ง ส.ว.ออกไปให้เร็วที่สุด
แล้วมีหรือ ส.ว.ทั้งสภา ใครยอมให้โละได้ง่ายๆ เพราะยังเหลือระยะเวลาการเป็นสว.อีกจนถึงปี 2567 จึงมี ส.ว.หลายคนลู่ตามสถานการณ์ แสดงท่าทีเห็นด้วยกับกระแสเรียกร้องแก้ไขรธน.แม้ข้อเรียกร้องไม่เอา ส.ว.จะเป็นข้อสำคัญ ก็ตาม
แต่บทบาทท่าทีนี้คงเพื่อต่อรอง ยอมถอยแต่ขอว่า เอาแค่ให้ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ ออกก็พอ เพราะถือว่า เสียแค่อำนาจแค่นี้ แต่ตัวเอง ยังได้เป็น ส.ว.อยู่ ก็ดีกว่า ได้กลับบ้านก่อนเวลาอันควร
ในความเป็นจริง ก็มีความเป็นไปได้ ที่ ส.ว.เสียงส่วนใหญ่ พร้อมจะตั้งป้อมชน ขวาง การแก้ไขรธน. เพราะในเมื่อ ม็อบนักศึกษา มองว่า ส.ว. คือฝ่ายตรงข้ามที่ต้องล้มให้ได้ สว.จำนวนไม่น้อย ก็อาจพร้อมเปิดหน้าแลก
เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้อเรียกร้อง ของคณะประชาชนปลดแอก ในเรื่องการแก้ไข รธน.เรื่องที่จะล้มกระดาน ส.ว.ทั้งหมด เป็นลำดับแรก แค่เสนอมา ก็ติดล็อกแล้ว โอกาส เข็นให้เกิดขึ้นจริง ทำได้ยาก
ขณะเดียวกันการนัดชุมนุมใหญ่ รอบหน้า ในช่วงเดือนตุลาคม ก็เชื่อว่า ได้เห็นแน่