xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งคณะทำงานสอบดุลพินิจ “เนตร นาคสุข” สั่งไม่ฟ้อง “บอส” อดีตรอง อสส.นำทีม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด
อัยการสูงสุดไม่รอที่ประชุม ก.อ.เซ็นตั้งคณะทำงาน ดึงอดีตรองอัยการสูงสุด-ตุลาการศาลทหาร-อัยการ สอบดุลพินิจ “เนตร นาคสุข” ชอบด่้วยกฎหมายหรือไม่


เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (11 ส.ค.) สำนักงานอัยการสูงสุดได้เผยแพร่เอกสารต่อสื่อมวลชน เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาสั่งคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทย าและตั้งคณะทำงานตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด

ระบุว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะทำงานอัยการพิจารณาสั่ง คดีอาญาสำนวน ส.1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ได้ประชุมพิจารณาสำนวนคดี ส.1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 และมีคำสั่งแจ้งพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายวรยุทธหรือบอสอยู่วิทยาผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) และเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานใหม่และเป็นพยานที่สำคัญที่จะทำให้ศาลลงโทษ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ จึงสั่งสอบสวนพยานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายพร้อมแจ้งคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อแล้วเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 และได้ประสานงานให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินการแล้วสำหรับประเด็นการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ของ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวอย่างแพร่หลายว่าเป็นการสั่งคดีที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ ในการตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดดังกล่าว ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 ซึ่งขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดยังไม่มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตรวจสอบรองอัยการสูงสุดในเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าจะนำประเด็นนี้เข้าพิจารณาเพื่อวางหลักเกณฑ์ในการประชุมคณะกรรมการอัยการในวันอังคารที่ 18 ส.ค. 2563 สำนักงานอัยการสูงสุดเห็นว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญและจะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน แต่เนื่องจากการกำหนดหลักเกณฑ์ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 82 จะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอัยการเพื่อพิจารณาอีกทั้งจะต้องนำหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการอัยการเห็นชอบไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลานานดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยรวดเร็วอัยการสูงสุดจึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา
27 แห่งพ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1446/2563 ลงวันที่ 10 ส.ค. 2563 แต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้เป็นคณะทำงานตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธอยู่วิทยาผู้ต้องหาโดยคณะทำงานประกอบด้วย

1. นายสมศักดิ์ บุญทอง หัวหน้าคณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด
2. พล.อ.ประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ คณะทำงาน เจ้ากรมพระธรรมนูญ
3. พล.ท.กิตติยุทธ กิตติยุทธโยธิน คณะทำงาน หัวหน้า สนง.ตุลาการศาลทหารและตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด
4. นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล คณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด
5. นายถาวร พานิชพันธ์คณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด
6. หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขานุการ
7. ร.ต.อ.สกล กริชฤทธิ์เดช ผู้ช่วยเลขานุการ

โดยให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 ของ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ว่า การรับฟังพยานหลักฐานเป็นไปตามหลักกฎหมายชอบด้วยเหตุผล และใช้ความระมัดระวังละเอียดรอบคอบหรือไม่เพียงใดแล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณา

ขณะที่ในวันนี้ (11 ส.ค.) นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่ออัยการสูงสุดเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจในการสั่งสำนวนคดีนี้และเป็นการแสดงสปิริต (Spirit) แก่องค์กรอัยการและต้องการให้ทุกคนในสังคมเกิดความสบายใจ โดยยืนยันว่า การสั่งคดีนี้ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนและตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

ด้าน นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เปิดเผยว่า ทราบเรื่องการลาออกของ นายเนตร นาคสุข จากสื่อมวลชน ซึ่งหากเป็นจริงตามนั้น วันที่ 18 ส.ค.นี้ ก็ต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ส่วนตัวไม่คิดว่าการลาออกของนายเนตรจะกระทบกับการเสนอตั้งคณะกรรมการตรวจสอบดุลพินิจ ที่เจ้าตัวสั่งไม่ฟ้องคดีนายบอส อยู่วิทยา เนื่องจากขณะที่มีคำสั่งยังอยู่ในช่วงดำรงตำเเหน่งข้าราชการอัยการ จึงน่าจะตรวจสอบเเละมีผลย้อนหลังได้ แม้ว่าตัวเองจะเป็นประธาน ก.อ. แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของ ก.อ.ทั้งหมดด้วยว่ามีความเห็นเช่นไร ยืนยันว่า การตรวจสอบดุลพินิจ ไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบทางวินัย เพราะหากเป็นอย่างหลัง จะต้องไปพิจารณาตัวบทกฎหมายอีกครั้ง
“อรรถพล”ปธ.ก.อ.เผยถ้าอสส.อนุญาต “รองเนตร”ลาออกสอบวินัยไม่ได้เเล้ว

"ต้องไปดู พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 58 บัญญัติในเรื่องการลาออก ว่าหากอัยการจะลาออกต้องให้อัยการสูงสุดสั่งอนุญาตแล้วให้ถือว่าพ้นจากตำแหน่งเเต่หากอัยการสูงสุดพิจารณาเเล้วเห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการจะยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกไว้เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือนนับ แต่วันขอลาออกก็ได้ กรณีนี้ต้องไปดูว่าอัยการสูงสุดมีคำสั่งอย่างไร อนุญาตหรือยับยั้งหรือไม่ หากมีคำสั่งอนุญาตให้นายเนตรลาออกจะไม่สามารถดำเนินการสอบวินัยได้ เพราะนายเนตรลาออกก่อนที่จะมีการเริ่มต้นกระบวนการสอบวินัย เเต่ถ้ามีการเริ่มกระบวนการทางวินัยเเล้วข้าราชการลาออกในภายหลังเเบบนี้ถึงสอบวินัยได้ต่อ ต้องอย่าลืมว่ายังมีเรื่องคดีอาญาที่น่ากลัวกว่าการสอบวินัย"




กำลังโหลดความคิดเห็น