ศาลแพ่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ กรณีเครือข่าย People GO ยื่นขอให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชี้ประชาชนมีสิทธิชุมนุมตามขอบเขตภายใต้กฎหมาย จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (5 ส.ค.) ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษกนัดฟังคำสั่ง คดีหมายเลขดำที่ พ.3454/2563 ที่ นายนิมิตร์ เทียนอุดม เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ, น.ส.แสงสิริ ตรีมรรคา, นายณัฐวุฒิ อุปปะ, นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ และนายวศิน พงษ์เก่า สมาชิกคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) (เครือข่าย People GO Network) รวม 5 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย เรื่องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกาศตาม มาตรา 5 และข้อกำหนดตาม มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
โดยในวันนี้ นายนิมิตร์ โจทก์ กับพวกเดินทางมาฟังคำสั่งศาลแพ่ง
ศาลแพ่งพิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ก่อนที่โจทก์ทั้งห้าจะยื่นคำฟ้อง มีเหตุโรคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดเกือบทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย จำเลยจึงออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร และประกาศขยายระยะเวลาอีก ถึงวันที่ 31 ก.ค. 2563 และออกข้อกำหนดห้ามชุมนุม ซึ่งเป็นข้อกำหนดตาม มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 อันเป็นการจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมของโจทก์ทั้งห้า
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า มีเหตุที่ต้องเพิกถอนประกาศ เรื่อง ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 3) ฉบับลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 และข้อกำหนดตาม มาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือไม่ เห็นว่า หลังจากโจทก์ยื่นคำฟ้อง จำเลยออกประกาศ เรื่อง ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 4) ฉบับลงวันที่ 28 ก.ค. 2563 ซึ่งมีผลบังคับระหว่างวันที่ 1-31 ส.ค. 2563 และจำเลยประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2563 เป็นต้นไป โดยข้อกำหนดล่าสุด ระบุว่า ข้อ 1. การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม การจัดให้มีกิจกรรมรวมกลุ่มหรือการใช้สิทธิของประชาชนเพื่อการชุมนุมใด ๆ ย่อมกระทำได้ภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายโดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ และให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดกิจกรรม จัดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดด้วย เห็นได้ชัดว่า ข้อกำหนดใหม่ดังกล่าวแตกต่างและเป็นการผ่อนคลายจากข้อกำหนดตามความใน มาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดดังกล่าว ซึ่ง ข้อที่ 5 ห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าว อันเป็นการยุยงให้เกิดความมสงบเรียบร้อย ดังนั้น ขณะนี้โจทก์ทั้งห้าจึงมีเสรีภาพในการชุมนุม ภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่ถึงกับต้องห้ามชุมนุมทุกกรณีเช่นเดียวกับขณะยื่นคำฟ้อง จึงไม่มีเหตุที่ต้องเพิกถอนประกาศ เรื่องขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 3) ฉบับลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 และข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 การดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปไม่มีประโยชน์ต่อคู่ความทุกฝ่าย จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ