MGR Online - ตำรวจคุมตัวชายต้องสงสัยฆ่ารัดคอชิงทองคำหนัก 5 บาท ก่อนจุดไฟเผาอำพรางเจ้าของร้านข้าวหมูแดง สอบปากคำ เจ้าตัวยังปฏิเสธเสียงแข็ง
วันนี้ (27 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์รอง ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 นำกำลังฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และ สน.บางขุนเทียน เดินทางไปเชิญตัว นายอู (นามสมมติ) อายุ 58 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีฆ่ารัดคอชิงสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และวางเพลิงเผาร่าง นายอนันต์ แสงอุไร อายุ 66 ปี เจ้าของร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบแมสเซ็นเจอร์ ริมถนนราชพฤกษ์ จากบ้านพักย่านบางขุนเทียน มาสอบปากคำที่ สน.บางขุนเทียน หลังสืบทราบว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้และพบศพ นายอนันต์ เสียชีวิตอนาถในกองเพลิง นายอู ผู้ต้องสงสัยรายนี้น่าจะอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนของชุดคลี่คลายคดีพบหลักฐานสำคัญหลายประการ อาทิ ก่อนเกิดเหตุตำรวจสืบทราบว่า นายอู มักเทียวไปเทียวมาหาสู่กับผู้ตาย มีการนั่งดื่มเบียร์ดื่มเหล้า และชอบนำทรัพย์สินมีค่าไปขายหรือจำนำเอาไว้กับผู้ตาย กระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายอู ใช้ยานพาหนะ รถ จยย.แบบผู้หญิงไม่ทราบยี่ห้อรุ่นและหมายเลขทะเบียน ใส่หมวกนิรภัยสีขาว ขับไปซื้อน้ำมันบรรจุใส่แกลลอนจากปั๊มแห่งหนึ่งย่านถนนกาญจนาภิเษก แล้วมุ่งหน้าเข้าไปหาผู้ตายที่บ้านพักหลังปิดร้านในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการแจ้งพบกลุ่มควันและแสงเพลิงขึ้นภายในบ้านพักหลังร้านข้าวหมูแดงเมื่อเวลา 16.45 น.
โดยหลังพบศพ นายอนันต์ ตายในกองเพลิง ญาติๆ ออกมาเผยผลการชันสูตรจากแพทย์ ยืนยันว่า เจ้าตัวน่าจะถูกรัดคอจนหมดสติเสียชีวิตก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ ขณะที่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และพระเลี่ยมทองหายไปนั้น นายอู ผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไป 4-5 วัน กระทั่งย่ามใจย้อนกลับมาที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งมีรายงานด้วยว่า ขณะที่ฝ่ายสืบสวนเข้าทำการเชิญตัว นายอู ไปให้ปากคำที่โรงพัก เจ้าตัวยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง ขัดแย้งกับผลตรวจสอบตามร่างกายที่ในเบื้องต้นพบร่องรอยบาดแผลคล้ายรอยข่วนตามร่างกายของ นายอู หลายแห่ง ซึ่งชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์ร่วมทำการตรวจยืนยัน หากผลออกมาตรงกันกับดีเอ็นเอของผู้ตาย จะแจ้งข้อหาและออกหมายจับ นายอู ตามฐานความผิดที่ก่อขึ้นต่อไป