ศาลมีนบุรีสั่งจำคุกรุ่นพี่ช่างก่อสร้าง ปวส. 1 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เตะซ่อมน้องรหัสขาดเรียนบ่อย จนเสียชีวิต
วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ศาลอาญามีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ ศาลอ่านคำพิพากษาคดีทื่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญามีนบุรี เป็นโจทก์ และญาติผู้เสียชีวิตเป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายศิริพันธ์ สิงห์พันธ์ อายุ 20 ปี อดีตนักศึกษา ปวส.ปี 1 สาขาช่างก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เป็นจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมให้กระทำหรือไม่กระทำ โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังหรือใช้กำลังประทุษร้าย ตาม ป.อาญา มาตรา 290, 309 วรรคแรก
คำฟ้องอัยการระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2562 เวลากลางคืน จำเลยเป็นนักศึกษารุ่นพี่ของนายพันธดนย์ บุญครอง อายุ 16 ปี ผู้ตายซึ่งเป็นนักศึกษา ปวช.ปี 2 สาขาเดียวกับจำเลย ได้บังคับข่มขืนใจให้ผู้ตายนอนคว่ำหน้าและนอนหงาย ไถตัวไปข้างหน้าแล้วไถตัวกลับมาบนพื้นกรวด เป็นระยะทางประมาณ 10 เมตร ในลักษณะขู่เข็ญตะคอกโดยทำให้กลัว จนผู้ตายยอมจำยอมกระทำตามที่จำเลยข่มขืนใจ แล้วจำเลยใช้เท้าเตะที่หน้าอกผู้ตายหลายครั้ง จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
โดยจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง แต่เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกอย่างต่ำ 3 ปี จึงไม่ใช่คดีที่มีโทษจำคุกอย่างต่ำตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ศาลจึงพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยได้โดยไม่ต้องสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ป.อาญา มาตรา 91 แม้ขณะกระทำจำเลยมีอายุ 19 ปีเศษ แต่พฤติการณ์แห่งคดีเป็นความร้ายแรงและจำเลยรู้ผิดชอบชั่วดีในการกระทำแล้ว พิพากษาลงโทษจำคุก ฐานทำร้ายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 3 ปี ฐานข่มขืนใจผู้อื่นฯ 6 เดือน รับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 9 เดือน แม้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม 1 แสนบาท แต่พฤติการณ์ร้ายแรง ไม่รอการลงโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คดีนี้ปรากฏเป็นข่าวเมื่อเดือน ก.ค. 2562 วันเกิดเหตุ นายศิริพันธ์กับพวกนั่งดื่มกินที่บ้านเพื่อนในซอยรามอินทรา 62 แยก 22 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. โดยนายศิริพันธ์เรียกนายพัธนดนย์ ผู้ตายซึ่งเรียนชั้น ปวช.ปี 2 และเป็นน้องรหัสมาพบ นายศิริพันธ์ถามว่าทำไมไม่ค่อยมาเรียน เดี๋ยวเรียนไม่จบนะ เตือนหลายครั้งแล้ว จากนั้นนายศิริพันธ์เรียกนายพัธนดนย์ไปลงโทษ โดยอ้างว่าเป็นการซ่อมน้อง ไม่ใช่รับน้อง โดยให้นอนกับพื้นแล้วให้พลิกตัวกลับไปมาไสตัวครูดกับพื้นกรวด จากนั้นนายศิริพันธ์ได้ถามนายพัธนดนย์ว่าจะให้เตะกี่ที นายพัธนดนย์ตอบว่า 2 ที นายศิริพันธ์จึงเตะหน้าอก 2 ที จากนั้นได้ให้นายพัธนดนย์ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วนั่งพูดคุยกัน แต่นายพัธนดนย์มีอาการไม่ดี นายศิริพันธ์กับพวกจึงพานำส่งโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ต่อมานายพัธนดนย์ขาดใจตาย แพทย์วินิจฉัยว่าหัวใจล้มเหลว นายศิริพันธ์อ้างว่าเป็นการซ่อมน้อง ทำไปเพราะรัก