พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้ากรณี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา วางแผนหลบหนีจากเรือนจำ ว่า ได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกว่า 20 ปาก ทั้งภรรยา บุตรชาย ทนายของ พ.ต.ท.บรรยิน รวมถึง 2 ผู้ต้องหา คือ นายสุธน ทองศิริ หรือโจ และนายณัฐพล นรการ หรือท็อป ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ให้ทนายช่วยเหลือประกันตัว
โดยเมื่อวานนี้ (16 ก.ค ) นายท็อปได้เข้าให้ปากคำ ซึ่ง ให้การเป็นประโยชน์ต่อคดี และจากการสอบสวนและพยานหลักฐานขณะนี้สามารถเอาผิด พ.ต.ท.บรรยิน ได้เพียงคนเดียว และในสัปดาห์หน้าจะประชุมพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ก่อนเข้าไปแจ้งข้อหากับ พ.ต.ท.บรรยิน ในเรือนจำ รวม 4 ข้อหา คือ เป็นผู้ใช้จ้างวาน สนับสนุนผู้อื่นให้กระทำผิด กระทำให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาลหลุดพ้นจากการคุมขัง ข่มขืนใจเจ้าพนักงาน และหน่วงเหนี่ยวกักขัง และหลังจากแจ้งข้อหาเพิ่มกับ พ.ต.ท. บรรยิน เสร็จสิ้น จะมีการพิจารณาในส่วนคดีให้การเท็จกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดี เบื้องต้นพบว่าอาจมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ที่จะถูกดำเนินคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำนายท็อป วานนี้ ให้การยอมรับว่ารู้จักกับ พ.ต.ท.บรรยิน ในเรือนจำจริง และเมื่อ พ.ต.ท.บรรยิน รู้ว่าจะได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำ พ.ต.ท.บรรยิน ได้วานให้ติดต่อกับลูกชาย พ.ต.ท.บรรยิน ให้วิ่งเต้นเพื่อให้ได้รับการเข้าเยี่ยม เพราะช่วงนั้นเรือนจำสั่งห้ามเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งพยานให้การยืนยันว่าได้ติดต่อลูกชายของ พ.ต.ท.บรรยิน จริง หลังจากได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว แต่พยานไม่ได้มีส่วนร่วมในแผนแหกคุก และเรื่องแผนการแหกคุกนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ต้องขังในเรือนจำหลายคนรู้กันดีว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้วางแผนดังกล่าวไว้จริง แต่รายละเอียดนั้นตัวพยานไม่ทราบ