MGR Online - ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมมือกับนครบาลระดมกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาแข่งรถบนทางสาธารณะ-จับแอดมินเพจโพสต์ชวนสมาชิกรวมตัวแข่งรถ ยึดรถยนต์ 208 คัน จยย.อีกกว่า 1 หมื่นคัน
วันนี้ (2 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) พร้อม พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ร่วมแถลงผลระดมปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่นครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ช่วงระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการรวมตัวแข่งรถ หลังรัฐบาลยกเลิกเคอร์ฟิวและผ่อนคลายมาตรการต่างๆ สามารถจับการแข่งรถในทาง และสนับสนุนให้มีการแข่งรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย 109 ราย ทำทัณฑ์บนบิดามารดาผู้ปกครอง 668 ราย ดำเนินคดีร้านค้าดัดแปลงรถหรืออุปกรณ์ 3,088 ราย ดำเนินคดีกับแอดมินเพจ 93 ราย ตรวจยึดรถยนต์ 208 คัน ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 11,743 คัน
โดยมีคดีที่น่าสนใจ อาทิ การจับกุมแอดมินเพจต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ปทุมธานี และ สิงห์บุรี ที่มีการโพสต์ชักชวนสมาชิกในกลุ่มรวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะ ซึ่งตำรวจจับกุมและดำเนินคดีกับทั้งแอดมิน และกลุ่มผู้แข่งรถ ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงการจับกุม นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง และจากภาพรวมการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน พบว่า ในเดือนมิถุนายน มีไม่ถึง 300 รายต่อเดือน จากปกติที่ได้รับแจ้งเหตุทั่วประเทศมากกว่า 600 รายต่อเดือน
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ ตำรวจทั่วประเทศจะเดินหน้าสืบสวนหาข่าวการรวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนัดหมายรวมตัวตามเพจ หรือ สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ พร้อมวางแผนจับกุมขณะเกิดเหตุและขยายผลไปถึงร้านค้าดัดแปลง สนับสนุนให้มีการแข่งรถ รวมถึงกองเชียร์ต่างๆ โดยทั้งหมดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ ตำรวจมีการเก็บข้อมูลกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการแข่งรถแล้วกว่าแสนคน ที่จะมีการนำตัวมาอบรมพัฒนาจิตใจต่อไป
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า ฝากเตือนไปยังผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานไม่ให้กระทำความผิดลักษณะนี้ เพราะตำรวจได้ดำเนินการกวดขันกวาดล้างอย่างจริงจัง ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นแอดมินเพจต่างๆ บางส่วนอ้างว่าไม่เคยนัดหมายให้มีการแข่งรถในทางสาธารณะ ขณะที่บางส่วนยอมรับผิด และฝากถึงผู้ที่คิดจะกระทำผิด อย่ามีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน เพราะนอกจากตนเองจะมีความผิดแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครอง อาจถูกดำเนินคดีด้วย