MGR Online - ผบ.ตร.เป็นประธานพิธีแถลงผลงานตำรวจภูธรภาค 1 เปิดยุทธการขุดรากถอนโคนหนี้นอกระบบ ปิดล้อมตรวจค้นผู้มีอิทธิพล-ทลายแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ยึดของกลางหลายรายการ
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ลานปราบไพรีอริศัตรูพ่าย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมตำรวจในสังกัด บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมและปิดล้อมตรวจค้นผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมายและเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือมีลักษณะเป็นการทำสัญญาเอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมายหรือการกู้ยืมเงินที่มีลักษณะเป็นการฉ้อโกงประชาชนในพื้นที่เขตตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้ “ยุทธการขุดรากถอนโคนหนี้นอกระบบในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1” ระหว่างวันที่ 22-25 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ จึงสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้แก่ประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ซึ่งต่อมา ผบ.ตร.จึงได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผช.ผบ.ตร.เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ
ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติงานของ ศปน.ภ.1 ที่มี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้ดำเนินการปิดล้อมจับกุมตรวจค้นเป้าหมาย 77 จุด สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบจำนวน 147 ราย ผู้ต้องหาทั้งหมด 147 คน, ของกลางจำนวน 360 รายการ แยกเป็นรถยนต์ 71 คัน จักรยานยนต์ 18 คัน โฉนดที่ดิน 27 ฉบับ อาวุธปืน 6 กระบอก เงินสด 103,830 บาท มูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมดประมาณ 200 ล้านบาทโดยแยกเป็นประเภทความผิดดังนี้
1. ข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ (หมวกกันน็อก) จำนวน 125 ราย ผู้ต้องหา 125 คน 2. ข้อหาทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ฯ (หมวกกันน็อก) จำนวน 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน 3. ข้อหากู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ (กู้ออนไลน์) จำนวน 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท 4. ข้อหาประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคลฯ (รับจำนำรถ) จำนวน 18 รายผู้ต้องหา 18 คน
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า กรณีแก๊งเงินกู้ต่างๆ ทางตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วทุกภาค ซึ่งในแต่ละภาคจะมีความแตกต่างกันไป โดยเฉพาะภาคอีสานที่ทางประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนอยู่ ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าตนจะลงไปตรวจสอบตามตลาด ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลที่มีการปล่อยเงินกู้นอกระบบ แล้วต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายวัน
เบื้องต้นได้สั่งการให้ทาง พล.ต.ท.ปิยะ รวบรวมข้อมูลไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนส่งข้อมูลแจ้งเบาะแสเข้ามา ทางตำรวจจะปกปิดแหล่งที่มาของข้อมูลแน่นอน
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า สำหรับการแจ้งเบาะแสนั้น ทาง ผบ.ตร.ได้กำชับมาแล้วว่าหากใครเดือดร้อนกรณีดังกล่าวท่านสะดวกที่ไหนแจ้งที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นตามสถานีตำรวจ ตลอดจนหมายเลขโทร.ด่วนของศูนย์พิทักษ์ธรรม หมายเลข 1599 หรือหมายเลข 191 ก็ได้ เพื่อที่จะปราบขบวนการเหล่านี้ให้สิ้นซาก
ขณะที่ พล.ต.ท.อำพลระบุว่า ศปน.ภ.1 ขอประชาสัมพันธ์สำหรับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบตำรวจภูธรภาค 1 ตั้งอยู่ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ชั้น 3 เลขที่ 29/3 หมู่ 2 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 1090) หมายเลขโทรศัพท์ 0-2537-8087