xs
xsm
sm
md
lg

ศาลพระโขนงเริ่มสืบพยานคดี “บรรยิน” ฆ่าอำพราง “เสี่ยชูวงษ์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ (แฟ้มภาพ)
ศาลพระโขนงเริ่มสืบพยาน คดี พ.ต.ท.บรรยิน ฆ่าอำพราง เสี่ยชูวงษ์ หลังมีคำพิพากษาจำคุกคดีปลอมเอกสารโอนหุ้น 300 ล้านไปเเล้ว และนัดสืบพยานครั้งต่อไป 9 มิ.ย.นี้

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (2 มิ.ย.) ศาลอาญาพระโขนง นัดสืบพยานโจทก์ในคดีหมายเลขดำ ที่ 4915/2559 ที่นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ กับพวก และอัยการ (โจทก์ที่ 5) รวม 5 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ ในความผิดฐานข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้


กรณีสืบเนื่องจากกรณีที่นายชูวงษ์ วัย 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม.ของนายชูวงษ์ ที่ พ.ต.ท.บรรยินขับและนายชูวงษ์เป็นผู้นั่งโดยสารด้านข้างคนขับ เกิดเสียหลักชนต้นไม้ เมื่อปี 2558 ที่ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.

โดยนัดสืบพยานโจทก์ทั้งห้าในวันนี้ พนักงานอัยการโจทก์ที่ 5 ทนายโจทก์ที่ 1-4 จำเลยและทนายจำเลยมาศาลโดยจำเลยถูกคุมขังเบิกตัวมาโดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์

ก่อนพิจารณาคดีศาลได้แจ้งให้คู่ความทราบว่าเนื่องจากขณะนี้มีโรคระบาดร้ายแรงโควิค-19 ซึ่งศาลอาญาพระโขนงได้มีคำสั่งให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีและที่ศาลอนุญาตสามารถเข้ามาในห้องพิจารณาคดีได้เท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนั้นจะไม่อนุญาตให้เข้ามาในห้องพิจารณา

โจทก์นำพยานเข้าเบิกความจนเสร็จสิ้นจำนวน 1 ปาก แล้วทนายโจทก์แถลงว่ายังติดใจสืบพยานอีก แต่วันนี้ได้เตรียมพยานมาศาลเพียงเท่านี้ จึงขอเลื่อนไปสืบพยานโจทก์ที่เหลือในนัดหน้า ซึ่งศาลให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์อีกครั้งในวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 09.00 น.ตามที่นัดไว้เดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เดิมศาลอาญาพระโขนงได้พักการพิจารณาคดีไว้เนื่องจากรอผลคำพิพากษาในคดีปลอมเอกสารโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์กว่า 300 ล้านบาท ของศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งนายบรรยินร่วมกับพวกกระทำผิดโดยศาลพิพากษาให้จำคุก น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี, น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์และคนสนิทของ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 ปี ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน อดีต รมช.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 ให้จำคุก 2 กระทง กระทงละ 4 ปี รวมจำคุก 8 ปี โดยให้ยกฟ้องในส่วน น.ส.ศรีธรา มารดาของอดีตโบรกเกอร์ จำเลยที่ 4 ที่ได้อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงได้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อ

นอกจากนี้ นายบรรยินยังเป็นจำเลยในคดีร่วมกับกับพวก 6 คน กระทำความผิดอุ้มฆ่าพี่ชาย น.ส.พนิดา สกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอาญากรุงเทพใต้ อดีตเจ้าของสำนวนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ในขณะนั้นด้วย ซึ่งในคดีดังกล่าวนายบรรยินกับพวกโดนยื่นฟ้อง 9 ข้อหา 1. ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ 2. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้ใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไปถึงแก่ความตาย 3. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4. ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป 4. เป็นซ่องโจร โดยสมคบกันเพื่อกระทำผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิต


5. ร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป 6. ร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพเพื่อปิดบังการตายและสาเหตุการตาย 7. ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นเพื่ออำพรางคดี และ 8. ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน

นอกจากนี้ เฉพาะ พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกฟ้องเพิ่มเติมในข้อหา 9. สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมาย ของเจ้าพนักงาน เพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิและแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิเพื่อกระทำผิดอาญา

อย่างไรก็ตาม การเบิกตัว พ.ต.ท.บรรยินมาจากเรือนจำในวันนี้ ศาลเกิดความเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จึงขอกำลังตำรวจมาดูแลมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งทางนครบาลได้จัดกำลังตำรวจ บก.สปพ. และสน.บางนา กองปราบปราม ตำรวจศาล และกรมราชทัณฑ์ มีการตั้ง ศปก.ควบคุม กำหนดมาตรการแผนเผชิญเหตุร่วมกันซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น