MGR Online - “ผบก.ปคม.” แจงเอาผิด นายทุน-แพทย์-นายหน้า-แม่อุ้มบุญ เครือข่ายข้ามชาติ “เจ้า หราน” รวม 22 ราย หลบหนี 1 ราย เงินสะพัด 1,000 ล้านบาท พบข้อมูลกลุ่มคนอุ้มบุญทั่วประเทศกว่า 200 คน
วันนี้ (29 พ.ค.) เวลา 10.30 น. กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา ผกก.2 บก.ปคม. นายแพทย์ ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้อำนวยการกองคดี 2 สำนักงาน ปปง. ร่วมแถลงการขยายผลจับกุมเครือข่ายอุ้มบุญข้ามชาติเพิ่มเติมอีก 13 ราย โดยมี นายเจ้า หราน เป็นนายทุนชาวจีน หลังจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย ช่วยเหลือเด็กทารกอายุ 1 เดือน และ 4 เดือนเศษ รวมถึงตรวจยึดอุปกรณ์ในการผสมอสุจิกับไข่ และยาที่ใช้ในการกระตุ้นไข่ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 63 ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวว่า ปคม. ได้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยประสานร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยานบุคคล 70 ราย ประกอบด้วย กลุ่มแพทย์ที่ดูแล ช่วงขณะตั้งครรภ์ กลุ่มพริตตี้พีอาร์ที่ขายไข่ และแม่อุ้มบุญที่อยู่มีชื่ออยู่ในใบเสร็จรับเงินของสถานพยาบาล ตรวจค้นคลินิกและโรงพยาบาลที่มีความเชื่อมโยงในคดี จำนวน 5 แห่ง พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ก่อนออกหมายจับ ผู้ต้องหาเพิ่มเติม อีก 13 ราย แบ่งเป็น กลุ่มนายหน้ากลุ่มใหม่ 4 ราย กลุ่มสนับสนุนช่วยเหลือ 3 ราย และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์ 6 ราย
ด้าน พ.ต.อ.มานะ กล่าวว่า จากพฤติกรรมเครือข่าย “เจ้า หราน” ทราบว่า แม่ชาวจีนมีปัญหาการตั้งครรภ์ไม่ได้จะติดต่อนายหน้าซึ่งมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่เคยเป็นแม่อุ้มบุญผันตัวมาเป็นนายหน้า หรือ กลุ่มนายหน้าโดยตรงจะหาแม่อุ้มบุญ โดยก่อนปี 58 ยังไม่มีกฎหมายการอุ้มบุญมักลักลอบทำในประเทศไทย แต่เมื่อมีกฎหมายดังกล่าวจึงเดินทางไปฝังตัวอ่อนที่ประเทศเพื่อนบ้านก่อนกลับเข้าไทยจนครบกำหนดคลอด บางส่วนจะคลอดในไทยก่อนพาเด็กไปส่งยังพ่อแม่ที่ประเทศจีน ขณะที่แม่อุ้มบุญอีกส่วนจะไปคลอดที่จีนแล้วส่งเด็กให้พ่อแม่และบินกลับไทยมาคนเดียว นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานผู้เกี่ยวข้องประมาณ 200 รายจากข้อมูลทะเบียนราษฎร์เป็นกลุ่มแม่อุ้มบุญทั่วประเทศ
ส่วนทาง พ.ต.อ.ณรงค์ เผยว่า ขบวนการอุ้มบุญดังกล่าวตำรวจ ปคม. ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 23 ราย จับกุมและเข้ามอบตัว 22 ราย หลบหนีอยู่ต่างประเทศ 1 ราย แบ่งกลุ่มผู้ต้องหาดังนี้ กลุ่มนายหน้าชาวจีน จับกุม 4 ราย หลบหนี 1 ราย, กลุ่มนายหน้าจัดหาแม่อุ้มบุญ จับกุม 7 ราย, กลุ่มคนขับรถและให้บริการความสะดวกแม่อุ้มบุญ จับกุม 3 ราย, กลุ่มแม่บ้านดูแลแม่อุ้มบุญและดูแลเด็กหลักคลอด จับกุม 2 ราย และ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รับทราบข้อกล่วหาแล้ว 6 ราย ในทางคดีคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานอัยการพิจารณา ซึ่งอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง ตามความผิด “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า, ร่วมกันซื้อ เสนอซื้อ ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่งอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน”
ขณะที่ นายธเรศ กล่าวว่า สถานพยาบาลที่มีส่วนในคดีอุ้มบุญจะตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณวิชาชีพหรือไม่ หากพบความผิดจะเพิกถอนใบอนุญาตและดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การอุ้มบุญในประเทศไทยทำได้ถูกต้องตามกฎหมาย หากคู่สมรสไม่สามารถมีบุตรได้และติดต่อสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตประมาณ 100 แห่งทั่วประเทศ โดยขณะนี้มีผู้เข้าสู่กระบวนการอุ้มบุญแล้ว 400 กว่าราย