MGR online - ปราบปรามการค้ามนุษย์ ขยายผล จับเพิ่มอีก 2 แก๊งนายหน้าอุ้มบุญ ระบุเป็นอีกกลุ่ม ทำมาแล้ว 2 ปี
วันนี้ (15 ก.พ.) เวลา 13.30 น. กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.วิศิษฐ์ ศรียาภัย สว.กก.5 บก.ปคม. ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีแม่อุ้มบุญ หลังติดตามจับกุมกลุ่มนายทุนชาวจีน และนายหน้าชาวไทย ว่าจ้างหญิงไทยให้มารับจ้างอุ้มบุญ รวม 9 ราย ส่งศาลฝากขังพร้อมค้านประกันตัว และออกหมายจับเพิ่มอีก 8 ราย
พล.ต.ต.วรวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังการสืบสวนขยายผลพบความเชื่อมโยงเครือข่ายึ้แม่อุ้มบุญอีกกลุ่ม ซึ่งมี นายจักรัตน์ กิตติวนิชย์กุล อายุ 53 ปี และ น.ส.กุลิสรา ป้อมเด็ด อายุ 43 ปี ร่วมกันเป็นนายหน้าจัดหาหญิงไทยที่รับอุ้มบุญให้นายทุนชาวจีน เมื่อหาหญิงไทยได้จะพาไปตรวจมดลูกที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และพาไปฝั่งตัวอ่อนที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อครบ 8 เดือนจะพาไปคลอดที่ประเทศจีน พบประวัติทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี โดยมีนายบอส (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เป็นผู้ติดต่อและประสานงาน ทั้งนี้ แม่อุ้มบุญจะได้ค่าตอบแทนประมาณ 400,000 บาท มีแม่อุ้มบุญมากกว่า 10 ราย
พล.ต.ต.วรวัฒน์ เผยอีกว่า เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.กุลิสรา ป้อมเด็ด และ นายจักรัตน์ กิตติวนิชย์กุล ในข้อหา "1.สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ 2.ร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน เพื่อประโยชน์ทางการค้า และ 3.ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือไขข่าวให้แพร่หลายด้วยประการใดๆเกี่ยวกับการตั้งครรภ์แทนว่ามีหญิงที่ประสงค์จะเป็นผู้รับตั้งครรภ์แทนผู้อื่น หรือมีบุคคลที่ประสงค์จะให้หญิงอื่นเป็นผู้รับตั้งครรภ์แทน ไม่ว่าจะได้กระทำเพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือไม่ก็ตาม"
ก่อนจับกุม นายจักรัตน์ ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าตัวสารภาพว่าเคยเป็นสามี น.ส.กุลิสรา แต่เลิกราและแยกกันอยู่นานกว่า 1 ปีแล้ว ส่วนเรื่องจ้างอุ้มบุญเคยร่วมงานกับอดีตภรรยาจริง แต่เลิกทำมา 2 ปีแล้วนอกจากนี้ ช่วงเที่ยงวันที่ 15 ก.พ. เจ้าที่จับกุม น.ส.กุลิสรา ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และนำตัวมาสอบที่ บก.ปคม. ก่อนนำฝากขังศาลตามขั้นตอน
"เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้เสียหายพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นอดีตเอเย่น และเป็นคนละกลุ่มกับ นายเจ้า หลาน ที่จับเมื่อวันที่ 13 ก.พ. แต่ปลายทางคาดว่ามีกลุ่มทุนจีนกลุ่มเดียวกัน เพียงแต่ขยายสายและแยกกลุ่มกันหาหญิงสาวมาอุ้มบุญ หลังจากนี้จะขยายผลออกหมายจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก และวันที่ 17 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น.จะประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ที่บก.ปคม. เพื่อทลายเครือข่ายแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติด้วย"