บช.ก.สนธิกำลังหลายหน่วยงาน บุกทลายเครือข่ายอุ้มบุญข้ามชาติ ใน กทม.และปริมณฑล รวม 10 จุด พบนายทุนชาวจีน-สาวรับจ้างตั้งครรภ์ร่วม 30 คน แฉกลวิธีเลี่ยงกฎหมาย ไปฉีดสเปิร์มในประเทศเพื่อนบ้าน กลับมาพักในไทย จนท้องแก่จึงเดินทางไปคลอดที่จีน
วันนี้ (13 ก.พ.) เมื่อเวลา 05.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 โชคชัย 4 พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.)เป็นประธานปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.ปคม. ชุดปฎิบัติการพิเศษ บก.ตร.มหด 904 เจ้าหน้าที่ ปปง. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ของกระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กว่า 200 นาย เปิดปฎิบัติการกวาดล้างจับกุมขบวนการ"อุ้มบุญ" หรือการรับจ้างตั้งครรภ์ ที่มีนายทุนต่างชาติชาวจีนเป็นผู้ว่าจ้างหญิงไทยอุ้มท้อง
มีรายงานว่าสำหรับปฎิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) พร้อม พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ พ.ต.อ.อภิรักษ์ เวชกาญจนา พ.ต.อ.ฐากูร นิ่มสมบูรณ์ พ.ต.อ.จีรเดช พระสว่าง พ.ต.อ.ฤทธิกา สายสนั่น ณ อยุธยา พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง รองผู้บังคับการ ปคม. ได้มีการหารือและซักซ้อมแผนปฏิบัติการ"อุ้มบุญ" ซึ่งกำหนดการเข้าตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญา รุ่งเช้าวันที่ 13 ก.พ.63 จำนวน 10 จุด เป้าหมาย 10 ราย ในพื้นที่ กทม.และ ต่างจังหวัด โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.ทุกกองเป็นชุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ของกระทรวงสาธารณสุข ตรวจค้นเก็บรวบรวมพยานหลักฐานกลับมาตรวจพิสูจน์เพื่อดำเนินคดี กับขบวนการจ้างวานหญิงสาวมาฉีดสเปิร์ม แล้วอุ้มท้องให้จนคลอด หรือที่เรียกว่าแม่อุ้มบุญ
โดยจุดที่น่าสนใจ คือการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านหรูหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว หลังสืบทราบว่ามีหญิงสาวอาศัยอยู่หลายคน โดยในบ้านพบหญิงสาวรวมทั้งมีทารกแรกคลอดวัยแบเบาะอยู่ด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบทารกเพศชาย วัยประมาณ 30 วัน กับหญิงสาว 7 คน ซึ่งมารับจ้างตั้งครรภ์ โดยทั้ง 7 คน ได้รับการฝังไข่แล้ว มีการดูแลอย่างดีเพื่อให้ตั้งครรภ์และคลอดทารกที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้จับกุมนายหน้าผู้ติดต่อเป็นธุระ รวมทั้งหญิงสาวที่รับจ้างอุ้มท้อง จำนวน 7 ราย ในจำนวนนี้มีหญิงไทย 6 ราย และนายทุนจีน 1 ราย มาทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังเสร็จสิ้นภารกิจตรวจค้นทั้ง 10 จุด ตามแผนปฏิบัติการอุ้มบุญแล้ว จะมีการแถลงข่าวสื่อมวลชนในเวลาประมาณ 11.00 น. ณ กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 โชคชัย 4 ต่อไป
มีรายงานว่า การเข้าไปตรวจค้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในซอยนาคนิวาส 37 นั้น เจ้าหน้าที่พบตัว นายจ้าวหรัน (Ran Zhao) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า
หลังจากนั้น ได้ตรวจค้นบ้านอีกหลังอยู่ห่างจากบ้านของนายจ้าวหรันมาประมาณ 6 หลังคาเรือน เป็นบ้านที่มีหญิงสาวอยู่รวมกัน 8 คน และเด็กทารกแรกเกิดเพศชายอายุเพียง 10 วัน โดยหญิงสาว 7 คนเป็นหญิงสาวที่มารับจ้างอุ้มบุญ มี 1 คน ที่ตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการรอเตรียมการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังพบเครื่องมืออบเด็กที่ใช้ในทางการแพทย์อยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่าเป็นขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ โดยมีนายทุนชาวจีนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย จัดหาหญิงสาวมารับจ้างตั้งครรภ์ จัดหาที่พัก การตรวจสุขภาพ จนกระทั่งไปคลอด ขบวนการนี้เจ้าหน้าที่มีการสืบสวนมา หลายเดือนและวางแผนก่อนเข้าปฏิบัติการในวันนี้ ถือเป็นการทลายเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติอีกรูปแบบหนึ่ง
ด้าน พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการ ปคม.ระบุว่า จากการแกะรอยเส้นทางของขบวนการนี้พบว่าทำมาตั้งแต่ปี 2555 โดยจะมีนายหน้ามาติดต่อหญิงสาวเพื่อรับอุ้มบุญ หรือรับจ้างตั้งครรภ์ ตกลงราคาตั้งแต่ 4-6 แสนบาท แต่หากเป็นลูกแฝดจะได้มากกว่านี้ แต่หลังจากประเทศไทยมีพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 หรือ พ.ร.บ.อุ้มบุญ ขบวนการนี้จึงเปลี่ยนเส้นทางโดยให้หญิงสาวที่รับจ้างอุ้มบุญไปฉีดสเปิร์มที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้วกลับมาประเทศไทย และเมื่อใกล้ครบกำหนดคลอดก็จะเดินทางไปคลอดที่ประเทศจีน และตัวแม่เด็ก ก็จะเดินทางกลับมาเพียงลำพัง จากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการประสานผ่านช่องทางต่างประเทศไปยังทางการจีนว่าเด็กที่คลอดจากแม่อุ้มบุญไปอยู่ที่ไหนอย่างไร
ทั้งนี้ จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่พบว่า ขบวนการนี้ว่าจ้างหญิงสาวในการเป็นแม่อุ้มบุญประมาณ 30 คน กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ประมาณ 5 จังหวัด สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้มีการบุกเข้าตรวจค้น 10 จุดเพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 10 หมายที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับขบวนการเครือข่ายอุ้มบุญ และจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้มีการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติขบวนการนี้เพิ่มเติมต่อไป