MGR Online - “อัจฉริยะ” พาผู้เสียหายร้อง ผบช.ภ.1 ให้ตั้งกรรมการสอบตำรวจบางพลี หลังเรียกเงิน 2 แสนบาท แลกกับการไม่ถูกจับดำเนินคดียาเสพติด
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาผู้เสียหายซึ่งถูกตำรวจ สภ.บางพลี อุ้มรีดเงิน โดยใช้ข้ออ้างคดียาเสพติดในการข่มขู่ จากกรณีก่อนหน้านี้ที่มีการร้องเรียนตำรวจ สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เรียกเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติดเพื่อแลกกับการปล่อยตัว เข้าพบ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
นายอัจฉริยะกล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายว่าถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี นับสิบนาย มาที่บ้านช่วงบ่ายวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา อ้างว่ามีหมายจับคดียาเสพติดข้อหาสมคบกันค้ายา แต่ไม่แสดงหมายจับและหมายค้น พร้อมจับกุมตนเองและแฟนหนุ่มไปที่ สภ.บางพลี จากนั้นก็เสนอข้อตกลงว่าหากจ่ายเงินมา 2 แสนบาทก็จะไม่ถูกดำเนินคดี แต่ผู้เสียหายต่อรองขอจ่ายเงิน 143,900 บาท พร้อมจักรยานยนต์ และโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง ทำให้ได้รับการปล่อยตัวไปในคืนวันนั้น ส่วนแฟนหนุ่มถูกดำเนินคดี
นายอัจฉริยะกล่าวอีกว่า สาเหตุที่แฟนของผู้เสียหายถูกดำเนินคดีข้อหาค้ายาเพราะมีความผิดจริง โดยตำรวจพบยาบ้า 20 เม็ด ส่วนตัวผู้เสียหายไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย แต่กลับถูกแจ้งข้อหาสมคบกันค้ายา ที่ผ่านมาผู้เสียหายไม่กล้าออกมาร้องเรียนเพราะความกลัว แต่หลังจากที่เห็นการดำเนินคดีตำรวจ สภ.คลองด่าน ที่เรียกเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติดในลักษณะคล้ายกันจึงทำให้ตัดสินออกมาร้องเรียนในวันนี้
ด้าน พล.ต.ท.อำพลกล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไว้แล้ว เนื่องจากนายอัจฉริยะได้ประสานงานไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้จะสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด และจะตั้งพนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดสมุทรปราการดูแลคดี หากพบผิดจริงจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการในความผิดทางอาญา ส่วนทางวินัยหากเป็นคดีที่ร้ายแรงจะให้ออกจากราชการ โดยตั้งกรอบเวลาในการสอบสวน 30 วัน รูปแบบการทำงานก็จะคล้ายกับกรณีของ สภ.คลองด่าน ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย และดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สั่งกำชับเรื่องการดำเนินคดีต่อตำรวจที่ประพฤติมิชอบอย่างเข้มงวด
