MGR Online - “อัจฉริยะ” พาครอบครัวเหยื่อ ถูกตำรวจ สภ.คลองด่าน ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ระหว่างจับกุมยาเสพติด ร้อง ผบ.ตร.เอาผิดทั้งทางวินัย-อาญา ผลนิติเวชยันถูกฆ่าตาย
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาครอบครัวของ นายสมควร บัวผลิ ที่เสียชีวิตขณะถูกตำรวจ สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ 14 นาย ร่วมกับพลเรือนอีก 1 คน เข้าจับกุมคดียาเสพติด เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอให้มีการดำเนินคดีทั้งทางวินัย และอาญา กับตำรวจทั้งหมด รวมทั้งพลเรือนที่ร่วมก่อเหตุ
น.ส.ยุรีย์ รุ่งกำจัด อายุ 45 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. ขณะที่สามีเฝ้าบ่อกุ้ง จังหวะเดียวกันกับที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวเข้าจับกุม โดยมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์ และได้ยินเสียงร้อง ก่อนที่จะพบว่าสามีเสียชีวิต ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้น ยอมรับว่า สามีเสพยาเสพติดจริง แต่ไม่ได้มีไว้ครอบครองมากจนนำไปจำหน่ายได้ จึงอยากให้ ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย
ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ได้นำหนังสือและหลักฐานจำนวนหนึ่ง มายื่นกับ ผบ.ตร. เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญากลุ่มเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายสมควร จนถึงแก่ความตาย ก่อนหน้านี้ เคยร้องเรียนเข้ามาผ่านทางจเรตำรวจแห่งชาติ ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว แต่วันนี้มายื่นหนังสืออย่างเป็นทางการ โดยมีพยานหลักฐานสำคัญเป็นผลชันสูตรจากโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งแพทย์นิติเวชระบุว่า ผู้ตายเสียชีวิตโดยการมีผู้อื่นทำให้เสียชีวิต จากการถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศีรษะ
“ขณะเดียวกัน มีพยานบุคคลยืนยันว่า เห็นตำรวจยศ ส.ต.ท.และ ด.ต.เป็นผู้อุ้มผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำ โดยทั้ง 2 นายนี้เป็นชุดเดียวกันกับที่เคยมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน จากกรณีถูกกล่าวหาตั้งแก๊งอุ้มผู้เสียหายไปรีดไถ ยัดข้อหาคดียาเสพติด ส่วนสาเหตุที่ตำรวจก่อเหตุ เชื่อว่า เกิดจากการบันดาลโทสะ เนื่องจากผู้เสียชีวิตวิ่งหนีขณะเข้าจับกุม และยังเชื่อว่า ตำรวจมีการเข้ามารีดไถผู้เสียชีวิตด้วย” นายอัจฉริยะ ระบุ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำครอบครัวของ นายสมควร บัวผลิ ที่ถูกตำรวจ สภ.คลองด่าน ร่วมกับพลเรือน รวม 15 คน ทำร้ายร่างกายอ้างว่าจับกุมคดียาเสพติดจนเสียชีวิต โดยขอให้ตั้งคณะทำงานในการดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าสำหรับคดีนี้แบ่งออกเป็นสองสำนวน คือ สำนวนคดียาเสพติด สภ.บางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งความร้องทุกข์ พร้อมส่งของกลางยาเสพติดต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง ในความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พนักงานสอบสวนได้ทำสำนวนเรื่อยมาโดยตลอดและสรุปสำนวนการสอบสวน เห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เนื่องจากถึงแก่ความตาย ส่งพนักงานอัยการพิจารณา และสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่เสียชีวิตในระหว่างทำการจับกุม สภ.บางบ่อ จว.สมุทรปราการ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบกับ พิจารณาข้อบกพร่องพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เหตุทำสำนวนการสอบสวนล่าช้า
สำหรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว จะดำเนินการตามขั้นตอนช่องทางและระยะเวลาที่กำหนด โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันชัดเจน ไม่เอาตำรวจนอกรีตไว้ หากกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้พิจารณาโทษทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด พร้อมได้กำชับ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กำกับดูแลในเรื่องนี้อย่าให้เกิดความบกพร่องและรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ในส่วนความคืบหน้าคดีที่ นายอัจฉริยะ ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน และ สภ.บางพลี ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ ในข้อหาอื่นๆ ก่อนหน้านี้นั้น ซึ่งต่อมาได้มีคำสั่งให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 6 นาย ออกราชการไว้ก่อน เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2563 นั้น คณะกรรมการสอบสวนมีการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินเจ้าหน้าที่ตำรวจกับพวก จำนวน 6 คดี โดยเกิดเหตุในพื้นที่ สภ.คลองด่าน 3 คดี, สภ.บางพลี 3 คดี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แบ่งเป็น สภ.คลองด่าน 4 นาย และ สภ.บางพลี 2 นาย
ซึ่งพนักงานสอบสอบสวน ได้ขออนุมัติหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ต่อศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี เมื่อ 14 พ.ค. 63 และเมื่อวานนี้ (18 พ.ค. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ได้เข้ามามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวต่อคณะกรรมการสอบสวน พร้อมทั้งได้ส่งสำนวนและตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 6 นาย ไปยัง ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป เนื่องจากเป็นความผิดต่อหน้าที่ราชการ และขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุม โดยอำนาจของ ป.ป.ช. และรอการประชุมพิจารณาอยู่ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี หากความคืบหน้าเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป