MGR Online - “อัจฉริยะ” พาผู้เสียหายร้อง ผบ.ตร.ฟันวินัย-อาญา ตำรวจ สภ.คลองด่าน ร่วมพลเรือน ตั้งแก๊งอุ้มเหยื่อรีดทรัพย์ ยัดข้อหายาเสพติด
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาผู้เสียหายจำนวน 9 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับตำรวจ สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ และพวก กว่า 10 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล้นทรัพย์ และกรรโชกทรัพย์ รวมทั้งให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย หลังมีพฤติการณ์ร่วมกันอุ้มผู้เสียหายไปทำร้ายร่างกาย ยัดข้อหาค้ายาเสพติด ก่อนเรียกรับเงินสินบนแลกกับการไม่ดำเนินคดี โดยมี พ.ต.อ.ดุสกร ยุวนากร รองผบก.กองวินัย ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
น.ส.เอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อประมาณกลางปี 2562 ที่ผ่านมา ขณะตนเองและสามี พร้อมด้วยลูกๆ อีก 3 คน นั่งรถไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ระหว่างนั้นได้มีชายฉกรรจ์ 7-8 คน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาจับกุมตัวตนเองและสามีใส่กุญแจมือ เหตุเกิดบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ สภ.คลองด่าน ก่อนนำตัวไปทำร้ายร่างกายที่สนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง จากนั้นกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ได้นำตนเอง และสามีไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ก่อนนำถุงดำมาคลุมหัวไว้ และลงมือซ้อมทำร้ายร่างกาย จนตนเองยินยอมจ่ายเงิน เป็นจำนวน 50,000 บาท และ รถยนต์ 1 คัน ให้กับกลุ่มตำรวจ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยหลังจากกลุ่มตำรวจได้รับเงินแล้ว ได้นำตนเองและครอบครัวมาปล่อยทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในย่านบางนา
ขณะที่ นายบี (นามสมมติ) ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนเองเป็นพ่อค้าขายลูกปลากะพง ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน 5 นาย กล่าวหาว่า จำหน่ายยาบ้า จำนวน 700-800 เม็ด ขณะนั่งดื่มสังสรรค์ภายในบ้านพักของเพื่อนชื่อนายหมึง โดยตำรวจอ้างว่าค้นพบยาเสพติดภายในบ้านหลังนี้ ก่อนจะนำตัวเสียหายทั้งกลุ่มมาสอบปากคำที่ สภ.คลองด่าน พร้อมกับบังคับให้เซ็นเอกสาร และเจรจาให้นำเงินสดจำนวน 200,000 บาท มาแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ด้วยความกลัวกลุ่มผู้เสียหายจึงยินยอม และติดต่อให้เพื่อนนำเงินสดมาให้ เมื่อได้รับเงินตามที่เจรจากลุ่มตำรวจดังกล่าวจึงปล่อยตัวไป
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนอยากเรียกร้องให้ ผบ.ตร.พิจารณาดำเนินคดีอาญาและลงโทษทางวินัยกับตำรวจ สภ.คลองด่าน จำนวน 8 นาย และพลเรือนที่ร่วมกระทำผิดรวมแล้วกว่า 10 คน จากพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดฐานปล้นทรัพย์ และกรรโชกทรัพย์ ผู้เสียหายต้องเสียสูญเสียเงินและรถยนต์ ขณะเดียวกัน ขอให้มีการตั้งกรรมการสอบสวน ผกก.สภ.คลองด่าน และ รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน สว.สืบสวนสอบสวน ที่ปล่อยปละละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปตั้งขบวนการ โดยใช้ห้องสืบสวนสวน สภ.คลองด่าน เป็นสถานที่ก่อเหตุอุ้มประชาชนมารีดเอาทรัพย์สิน
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนเองพาผู้เสียหายที่ถูกตำรวจแก๊งนี้อุ้มไปรีดทรัพย์ มาร้องเรียนกับ ผบ.ตร. ขณะที่ต่อมา พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้มีคำสั่งให้ตำรวจที่ร่วมกระทำผิดมาช่วยราชการที่ศปก.ภ.จว.สมุทรปราการ และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเทจจริงแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีนายดาบตำรวจซึ่งเป็นหัวหน้าชุด มาปรากฏตัวในห้องสืบสวน แสดงให้เห็นว่า นายดาบตำรวจคนนี้ มีอิทธิพล และไม่เกรงกลัวต่อคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจ และเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย บางรายก็ไม่กล้าที่จะออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 พ.ค. เวลา 09.00 น. ตนเองจะพาผู้เสียหายทั้งหมดเข้าพบ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ของกลุ่มตำรวจนอกแถวเหล่านี้
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 63 พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น หากแต่ทางผู้ร้องและผู้เสียหาย ไม่ยอมมาพบและให้การในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากอ้างว่า ไม่ไว้วางใจคณะกรรมการระดับ ภ.จว. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 จึงได้มีคำสั่งระดับกองบัญชาการ หรือ ระดับภาค ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยให้ดำเนินการ แล้วเสร็จภายใน 15 วัน พร้อมทั้งให้ทาง ภ.จว.สมุทรปราการ ยกเลิกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับ ภ.จว. ซึ่งต้องขอความร่วมมือทางผู้ร้องและผู้เสียหาย เข้ามาให้ข้อมูล เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและคลี่คลายข้อสงสัยที่เกิดขึ้น โดยยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทางผู้เสียหาย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดจริง
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในวันนี้ (30 เม.ย.63) นายอัจฉริยะ พร้อมผู้เสียหาย ได้มายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญากับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน ภ.จว.สมุทรปราการ กับพวกรวม 6 นาย ในความผิดฐาน “ร่วมกันข่มขืนใจ, กักขังหน่วงเหนี่ยวและร่วมกันปล้นทรัพย์“ และ กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน ภ.จว.สมุทรปราการ กับพวกรวม 8 นาย ในความผิดฐาน “ร่วมกันข่มขืนใจ, กักขังหน่วงเหนี่ยวและร่วมกันปล้นทรัพย์“ ซึ่งได้รับเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว โดยจะเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ร้องและผู้เสียหาย ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีต่างๆ รวมทั้งสอบปากคำผู้เสียหายและพยาน เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยและให้ความกระจ่างแก่สังคม
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เร่งดำเนินการ สืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ในการ พิสูจน์ข้อเท็จจริงและคลี่คลายข้อสงสัยที่เกิดขึ้น ด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้การกระทำความผิดตามที่กล่าวหาจริง จะดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด ประกอบกับให้พิจารณาตั้งกรรมการกับผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้น ตามนัยคำสั่ง 1212/2537 กรณีปล่อยปะละเลยไม่กวดขันความประพฤติและวินัยของผู้ใต้บังคับบัญชาจนเกิดข้อบกพร่อง เสียหาย เพื่อที่จะไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเสียกำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ ทั้ง ไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด